Page 250 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 250
๓. เพื่อส่งเสริมให้พื้นที่หรือองค์กรยุทธศาสตร์ได้มีการจัดปัจจัยแวดล้อมด้านอาหารสุขภาวะ ที่เอื้อ
ต่อการปรับพฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้ที่ปลอดภัยอย่างเพียงพอ ลดอาหารและเครื่องดื่ม
ที่หวาน มัน เค็ม โดยเน้นที่กลุ่มเป้าหมายเด็กวัยเรียน และเตรียมความพร้อมรองรับสังคม
ผู้สูงอายุ
๔. เพื่อสื่อสารสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ และสร้างค่านิยมในการบริโภคอาหารสุขภาวะ และการใช้
248 วิถีชีวิตที่มีสุขภาวะ ส�าหรับประชาชนทุกกลุ่มวัย ให้มีความสามารถในการจัดการตนเอง
มีพฤติกรรมบริโภคผักผลไม้ปลอดภัย ลดอาหารและเครื่องดื่มที่หวาน มัน เค็ม
เป้าหมาย ๑ ปี ตัวชี้วัดหลัก และตัวชี้วัดร่วม
ตัวชี้วัดหลัก
๑. เพิ่มอัตราการบริโภคผักและผลไม้ที่ปลอดภัยอย่างเพียงพอตามข้อแนะน�าองค์การอนามัยโลก
(๔๐๐ กรัมต่อวันหรือ ๕ ส่วนมาตรฐาน) อย่างน้อยร้อยละ ๕๐ (ข้อมูลปี ๒๕๕๗ คือร้อยละ ๒๕.๙
และเป้าหมายของยุทธศาสตร์ ๑๐ ปี ๒๕๖๔ คือ ร้อยละ ๕๐) โดยวัดผลที่กลุ่มเป้าหมายภายใต้
การสนับสนุนของแผน
แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
๒. ลดอัตราชุกของภาวะน�้าหนักตัวเกินและโรคอ้วน ในเด็กวัยเรียน (อายุ ๖ – ๑๔ปี) ให้น้อยกว่าร้อยละ ๑๐
(เป้าหมายระยะ ๑๐ ปี อยู่ที่น้อยกว่าร้อยละ ๑๐) โดยวัดผลที่กลุ่มเป้าหมายภายใต้การสนับสนุน
ของแผน
๓. มีข้อมูลวิชาการอย่างน้อย ๒ เรื่องที่ใช้สนับสนุนการขับเคลื่อนให้เกิดมาตรการ/นโยบายที่ส่งเสริม
ให้ประชาชนได้บริโภคผักผลไม้ที่ปลอดภัยอย่างเพียงพอ หรือลดภาวะน�้าหนักตัวเกินและโรคอ้วน
๔. เกิดมาตรการ/นโยบายระดับชาติอย่างน้อย ๒ มาตรการ/นโยบาย และระดับท้องถิ่นอย่างน้อย
๑๐ มาตรการ/นโยบายที่ส่งเสริมให้ประชาชนได้บริโภคผักผลไม้ที่ปลอดภัยอย่างเพียงพอ
หรือลดภาวะน�้าหนักตัวเกินและโรคอ้วน
๕. เกิดต้นแบบและการขยายต้นแบบของแหล่งผลิต แหล่งจ�าหน่าย และแหล่งให้บริการ ผักผลไม้
เพื่อการบริโภคที่ปลอดสารพิษ/ปลอดภัย รวมทั้ง ๓ ประเภท จ�านวน ๕๐ แห่ง
๖. เกิดต้นแบบศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน และองค์กรที่มีการจัดปัจจัยแวดล้อมด้านอาหาร
เพื่อสุขภาวะที่ภาคียุทธศาสตร์สามารถน�าไปขยายผลต่อได้ อย่างน้อย ๖๐๐ แห่ง
๗. ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการด�าเนินงานของภาคีเครือข่าย มีความรู้ความเข้าใจและมีแนวโน้ม
ปรับพฤติกรรมเพิ่มการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะและมีวิถีชีวิตที่มีสุขภาวะ อย่างน้อยร้อยละ ๖๕
๘. เกิดพื้นที่ต้นแบบการจัดการเชิงบูรณาการเพื่อส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ปลอดภัยและลดอ้วน
อย่างน้อย ๓ แห่ง
