Page 156 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 156








ครั้งที่ ๓ (๒๕๔๖ - ๒๕๔๗) และครั้งที่ ๔ (๒๕๕๑ - ๒๕๕๒) อย่างชัดเจน รวมถึงโรคอื่นๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ

ขาดเลือด โรคเครียด และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม การดูแลสุขภาพช่องปาก
ที่ไม่ถูกต้อง อาจน�ามาซึ่งความสูญเสียทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และศักยภาพการผลิตที่ลดลง จากค่ารักษา

พยาบาล การขาด/ลางาน การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

ในอดีตที่ผ่านมาแม้ว่า ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ต่างก็เล็งเห็นความส�าคัญของสุขภาพของคนท�างาน

154 ต่อผลผลิต และความก้าวหน้าขององค์กร และสังคมโดยรวม ในส่วนของภาครัฐได้มีการพัฒนาทางด้าน
กฎหมาย ระเบียบปฏิบัติทางด้านสุขภาพ และความปลอดภัยของผู้ใช้แรงงาน มีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ดูแลด้านนี้ สถานศึกษา และหน่วยงานราชการ มีการฝึกอบรมบุคลากรทางด้านอาชีวอนามัย และ
ความปลอดภัย ออกมาจ�านวนมาก ในส่วนของภาคเอกชน ทั้งนายจ้าง ลูกจ้างก็มีจ�านวนไม่น้อย ที่ร่วมมือ

กันปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบและข้อแนะน�าต่างๆ เพื่อให้พ้นจากการบาดเจ็บ และโรคร้ายจากการท�างาน
แต่อย่างไรก็ตามประชากรวัยท�างานส่วนใหญ่ก็ยังเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพซึ่งเป็น
โรคที่ป้องกันได้ ดังจากรายงานสถิติสาธารณสุข พบว่า จ�านวนผู้ป่วยในด้วยโรคไม่ติดต่อที่ส�าคัญมีแนวโน้ม

เพิ่มขึ้นดังนี้

• อัตราป่วยโรคความดันโลหิตสูงต่อแสนประชากรจากปี ๒๕๔๕ - ๒๕๕๕ พบว่าเพิ่มจาก ๓๘๕.๔๓
(ต่อแสนประชากร) ในปี ๒๕๔๕ เป็น ๑๖๒๒.๘ (ต่อแสนประชากร) ในปี ๒๕๕๕ เฉลี่ยเพิ่มปีละ

๗๐,๐๐๐ คน เป็นภาระค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ ๕๖๕.๕๐ ล้านบาท
แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
• อัตราป่วยโรคเบาหวานต่อแสนประชากรจากปี ๒๕๔๕ - ๒๕๕๕ พบว่าเพิ่มจาก ๓๕๓.๔๙ (ต่อแสน
ประชากร) ในปี ๒๕๔๕ เป็น ๑๐๕๐.๖ (ต่อแสนประชากร) ในปี ๒๕๕๕ เฉลี่ยเพิ่มปีละ ๔๐,๐๐๐ คน
เป็นภาระค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ ๖๗๒.๑๐ ล้านบาท

• โรคหัวใจขาดเลือดต่อแสนประชากรจากปี ๒๕๔๕ - ๒๕๕๕ พบว่าเพิ่มจาก ๑๕๘.๔๘ (ต่อแสน

ประชากร) ในปี ๒๕๔๕ เป็น ๔๒๗.๕๐ (ต่อแสนประชากร) ในปี ๒๕๕๕ เฉลี่ยเพิ่มปีละ ๑๖,๐๓๐ คน
เป็นภาระค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ ๖๒๐.๕ ล้านบาท

ส่วนด้านจิตใจ มีวัยท�างานขอรับบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตผ่านสายด่วน ๑๓๒๓ กรมสุขภาพจิต

มากที่สุดคือ ความเครียดหรือวิตกกังวล เช่น จากโรคเรื้อรัง หนี้สิน ๖,๒๓๑ ราย รองลงมา คือปัญหา
ทางจิตเวช ๔,๘๔๕ ราย ปัญหาความรัก ๑,๖๖๖ ราย และปัญหาเกี่ยวกับการท�างาน เช่น สัมพันธภาพกับเพื่อน
ร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง ค่าตอบแทนน้อย ต้องการเปลี่ยนงาน ๒๕๖ ราย (ที่มา : แถลงข่าว มาตรการดูแล

สุขภาพวัยท�างาน เนื่องในวันความปลอดภัยในการท�างานและอาชีวอนามัยสากล วันที่ ๒๘ เมษายน และ
วันแรงงานแห่งชาติ ๑ พฤษภาคมของทุกปี เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๙ โดย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข นพ.บุญเลิศ ศักดิ์ชัยนานนท์ นายแพทย์

ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษา กรมสุขภาพจิต และ
นายสมพงษ์ ชัยโอภานนท์ นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ ด้านโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวง

สาธารณสุข) สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาด้านการเงินเป็นประเด็นส�าคัญล�าดับแรกที่จะต้องได้รับการแก้ไข
เนื่องจากเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจิต ปัญหาครอบครัวและกลายเป็นภาระ
ของสังคมในท้ายที่สุด
   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161