Page 68 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 68
ความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยสูง ได้แก่ ชุมชนแออัด (๒) ชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยปานกลาง
ได้แก่ ชุมชนที่มีที่อยู่อาศัยเป็นตึกแถว อาคาร และอาคารสูง และ (๓) ชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย
น้อย ได้แก่ ชุมชนที่ปลูกสร้างบ้านในเนื้อที่ส่วนตัวเป็นหลังๆ
๘. สถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นและการศึกษากระบวนการรับมือภัยพิบัติของประเทศที่ผ่านมา พบว่า
ข้อมูล สถิติ และองค์ความรู้ที่เกิดจากการถอดบทเรียนการรับมือภัยพิบัติทั้งในระดับชาติและชุมชน
ยังขาดแคลนข้อมูลอยู่มาก จ�าเป็นที่จะต้องมีการรวบรวมข้อมูล สถิติ และกรณีศึกษาการรับมือภัยพิบัติ
66
เพื่อสังเคราะห์ออกมาเป็นองค์ความรู้และจัดท�าข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อผลักดันให้เกิดระบบการบริหาร
จัดการภัยพิบัติของประเทศที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุที่ว่า การเกิดภัยพิบัติในแต่ละครั้งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถ
คาดการณ์ได้ล่วงหน้า เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน และกระจายเป็นวงกว้างในหลาย
พื้นที่ ความเสียหายที่เกิดต่อระบบการคมนาคมขนส่ง ท�าให้ความช่วยเหลือจากภาครัฐ องค์กรเอกชนและ
อาสาสมัครไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ในทันที ชุมชนที่มีความเข้มแข็ง มีการประสานงานภายในชุมชน
รวมถึงมีการแบ่งบทบาทและหน้าที่ของแต่ละคนที่ชัดเจนในการรับมือภัยพิบัติที่เกิดขึ้น จะสามารถบรรเทา
ภัยที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าชุมชนหรือพื้นที่ที่ขาดการเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติ
๙. แนวโน้มการเสียชีวิตจากการจมน�้าของเด็กอายุต�่ากว่า ๑๕ ปี ค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๔๙ แต่ข้อมูลปี ๒๕๕๘ การจมน�้ายังคงเป็นภัยคุกคามอันดับ ๑ ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิต
ของเด็กอายุต�่ากว่า ๑๕ ปีเมื่อเทียบกับทุกสาเหตุทั้งโรคติดเชื้อและโรคไม่ติดเชื้อ โดยมีอัตราเสียชีวิตต่อ
ประชากรเด็กแสนคนสูงที่สุด เท่ากับ ๕.๙ ซึ่งเพศชายมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าเพศหญิงประมาณ ๒ เท่าตัว
แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
สถานที่ที่เด็กจมน�้าอยู่ที่บ้านและบริเวณบ้านสูงที่สุด (ร้อยละ ๓๖.๖) แหล่งน�้าที่มีเด็กเสียชีวิตจากการจมน�้า
สูงที่สุดคือแหล่งน�้าธรรมชาติ (ร้อยละ ๓๙.๒) รองลงมาคืออ่างอาบน�้า (ร้อยละ ๖.๘) และสระว่ายน�้า
(ร้อยละ ๒.๗) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุด รองลงมาคือ ภาคใต้ ภาคกลาง (ไม่
รวมกรุงเทพมหานคร) และภาคเหนือ โดยมีอัตราการเสียชีวิตต่อประชากรแสนคน เท่ากับ ๗.๑ ๖.๐ ๕.๙
และ ๕.๒ ตามล�าดับ ส�าหรับการเข้าถึงการรักษาพยาบาลพบว่าเด็กอายุต�่ากว่า ๑๕ ปี ที่บาดเจ็บรุนแรงจาก
การจมน�้า ถูกน�าส่งโดยญาติหรือผู้พบเห็นเหตุการณ์มากที่สุด (ร้อยละ ๔๙.๕) รองลงมาคือหน่วยบริการ
การแพทย์ฉุกเฉิน (ร้อยละ ๔๗.๓) ๔๔
๔๔ สุชาดา เกิดมงคลการ ส้ม เอกเฉลิมเกียรติ และกาญจนีย์ ต�านาคแก้ว. “การวิเคราะห์เชิงพรรณนาข้อมูลระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บจาก
การตกน�้า จมน�้า ทั้ง ๕ มิติของการด�าเนินงาน”. ๒๕๕๘.
