Page 70 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 70








จ�านวนมหาศาล การพนันผ่านช่องทางออนไลน์สามารถเข้าถึงทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา ท�าให้เด็กและเยาวชน

เข้าถึงการเล่นพนันได้ง่าย การขยายตัวของการพนันออนไลน์ต่อเนื่องได้กลายเป็นปัญหาต่อการติดตาม
จับกุม อีกทั้งอาจเกี่ยวพันกับปัญหาอาชญากรรม การฟอกเงิน และการเล่นพนันอาจมีผลต่อการพัฒนา

ของสมอง การติดพนันเป็นโรคทางจิตเวชกลุ่มการเสพติด นอกจากนั้น การขยายตัวของธุรกิจการพนันสู่กลุ่ม
ผู้สูงอายุ ซึ่งมีเวลาว่าง อาจกลายเป็นช่องทางที่ท�าให้ผู้สูงอายุสูญเสียเงินออมและเงินเกษียณ และล่าสุด
วงการแพทย์พบว่า การเล่นพนันอาจมีผลต่อการพัฒนาของสมองระดับโครงสร้าง การเล่นพนันตั้งแต่อายุน้อย
68
ส่งผลให้การพัฒนาทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชนต�่า และการติดพนันเป็นโรคทางจิตเวชกลุ่มความผิดปกติ
เกี่ยวกับการเสพติด เช่นเดียวกับการติดเกม ติดอินเทอร์เน็ต

๒. การพนัน (gambling) แบ่งออกเป็น ๓ กลุ่มใหญ่ ได้แก่ (๑) เกมพนัน (gaming) การเล่นพนัน

ที่ใช้อุปกรณ์ ส่วนใหญ่เป็นการเล่นพนันในบ่อนหรือกาสิโน และการเล่นพนันด้วยเครื่องเล่นหรือสลอตแมชีน
(๒) การเดิมพัน (betting) การเล่นพนันทายผล มีทั้งการทายผลการแข่งขันกีฬาและการทายผลเหตุการณ์
(๓) สลาก/ลอตเตอรี่ (lottery) การเล่นพนันเสี่ยงโชค ส่วนใหญ่เป็นการเสี่ยงโชคโดยออกผลรางวัลเป็น

ตัวเลข ซึ่งสมาคมสลากกินแบ่งโลก (world lottery association : wla) ได้จัดแบ่งการพนันสลาก/
ลอตเตอรี่ (lottery) ออกเป็น ๕ ประเภท ได้แก่ (๑) สลากแบบดั้งเดิม (สลากใบที่ออกในลักษณะเดียวกับ
สลากกินแบ่งรัฐบาล) (๒) สลากลอตโต้ (๓) สลากรู้ผลทันที (๔) สลากตัวเลข และ (๕) สลากกีฬา (Toto)

ส�าหรับการพนันออนไลน์ เป็นการเล่นพนันผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ทั้งเกมพนัน การเดิมพัน และสลาก/
ลอตเตอรี่
แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
๔๗
๓. การศึกษาสถานการณ์พฤติกรรมและผลกระทบการพนันในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘ ส�ารวจ
ประชากรที่มีอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป ใน ๒๙ จังหวัด จ�านวน ๗,๐๑๘ ตัวอย่าง ระหว่าง ๑ - ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๘
พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คือร้อยละ ๗๓.๘ ระบุว่าเคยมีประสบการณ์เล่นพนัน (อย่างใดอย่างหนึ่ง)

โดยกว่าร้อยละ ๖๐ เริ่มเล่นพนันครั้งแรกตอนอายุไม่เกิน ๒๐ ปี และผู้เริ่มเล่นการพนันครั้งแรกอายุต�่าสุดคือ
๗ ปี ส�าหรับเหตุผลของกลุ่มที่เล่นพนัน ๕ อันดับแรก ได้แก่ ต้องการเสี่ยงโชค/อยากลอง (ร้อยละ ๗๐.๑)
อยากได้เงิน (ร้อยละ ๓๘.๙) ตื่นเต้น/เพลิดเพลิน (ร้อยละ ๓๒.๓) เล่นตามคนใกล้ชิด (ร้อยละ ๒๔) และ

มีคนชวนให้เล่น (ร้อยละ ๑๙.๔) ส่วนเหตุผลของกลุ่มที่ไม่เล่นพนัน ๕ อันดับแรกคือ ไม่ชอบ (ร้อยละ ๗๔.๘)
เล่นไม่เป็น (ร้อยละ ๓๘.๔) เป็นสิ่งผิดกฎหมาย (ร้อยละ ๒๓.๗) กลัวเสียเงิน (ร้อยละ ๑๘.๙) และเป็นอบายมุข
(ร้อยละ ๑๖.๑)

ในรอบ ๑๒ เดือนที่ผ่านมา มีผู้เล่นการพนันร้อยละ ๕๒.๔ หรือประมาณการเท่ากับประชากรจ�านวน

๒๗,๓๙๓,๖๗๘ คน มีสัดส่วนของเพศชายมากกว่าเพศหญิง (๑๔.๐๙ และ ๑๓.๓๐ ล้านคน) ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม
อายุ ๔๐ - ๔๙ ปี แต่มีเยาวชนอายุระหว่าง ๑๕ - ๒๕ ปี เป็นผู้เล่นการพนันมากถึงร้อยละ ๑๑.๒ หรือประมาณ

๓,๑๑๖,๖๓๔ คน ส�าหรับประเภทการพนันที่เล่นมากที่สุด ๕ อันดับแรก ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล หวยใต้ดิน
พนันทายผลฟุตบอล ไฮโล/โปปั่น/ก�าถั่ว/ถั่วแยก/น�้าเต้าปูปลา และบิงโก









๔๗ การส�ารวจโดย คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB), ๒๕๕๘
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75