Page 62 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 62
ให้เห็นว่า คนไทยจ�านวนมากยังมีความประมาทและขาดวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถจักรยานยนต์
๕. สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนน ที่มีสาเหตุจากการ “ดื่มแล้วขับ” ของคนไทยลดลง ข้อมูลจาก
รายงานสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๗ - ๒๕๕๘ พบว่า จ�านวนและสัดส่วนของคดี
อุบัติเหตุจราจรที่มีสาเหตุจากเมาแล้วขับ ปี ๒๕๔๒ - ๒๕๕๘ มีแนวโน้มลดลง (ที่มา : ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ)
และสอดคล้องกับสัดส่วนการดื่มแล้วขับในผู้บาดเจ็บรุนแรงจากอุบัติเหตุจราจร ปี ๒๕๔๘ - ๒๕๕๘ ก็มีแนวโน้ม
60 ลดลงเช่นกัน (ที่มา : ระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค) และส�านักงานสถิติแห่งชาติยังได้รายงานว่า
การเกิดอุบัติเหตุจากคดีขับรถขณะเมาสุรามีแนวโน้มลดลง จากเดิมเกิด ๗,๗๕๙ ครั้ง ในปี ๒๕๕๐ เพิ่มเป็น
๙,๔๘๑ ครั้งในปี ๒๕๕๒ และลดลงเป็น ๕,๔๖๐ ครั้ง ๒,๖๔๕ ครั้ง และ ๑,๓๖๘ ครั้ง ในปี ๒๕๕๕ ๒๕๕๖ และ
๓๘
๒๕๕๘ ตามล�าดับ ขณะที่ส�านักสาธารณสุขฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานจ�านวนผู้บาดเจ็บและ
เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ๕ ปีล่าสุด ที่พบว่า ผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนมีการใช้แอลกอฮอล์มีจ�านวนลดลง
จากเดิมร้อยละ ๓๓.๖๘ ในปี ๒๕๕๕ เป็นร้อยละ ๓๕.๒๔ ร้อยละ ๓๔.๒๙ ร้อยละ ๒๙.๘๓ และร้อยละ ๒๐.๗๖
ในปี ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ ตามล�าดับ ๓๙
เมื่อพิจารณาถึงการคุมประพฤติ ที่เป็นกระบวนการสืบเนื่องมาจากการคดีขับรถขณะเมาสุรา พบว่า
จ�านวนผู้กระท�าความผิดที่ศาลสั่งให้คุมประพฤติและบ�าเพ็ญสาธารณประโยชน์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทุกๆ ปี
โดยในปี ๒๕๔๙ ผู้ถูกคุมประพฤติจากคดีดังกล่าวมีจ�านวนทั้งสิ้น ๒๗,๘๕๙ ราย เพิ่มขึ้นเป็น ๓๗,๔๘๒ ราย
๔๘,๗๗๒ ราย ๔๗,๙๕๐ ราย และ ๔๐,๓๖๔ ราย ในปี ๒๕๕๒ ๒๕๕๕ ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ ตามล�าดับ ในจ�านวนนี้
แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
พบว่า เป็นผู้กระท�าความผิดซ�้า บางรายมากถึง ๓ ครั้งในห้วง ๔ - ๕ ปี หากแต่ข้อมูลการกระท�าความผิดซ�้ายัง
มิได้ถูกน�าขึ้นพิจารณาในชั้นศาลยุติธรรม ยังผลให้เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล ผู้กระท�าความผิดรับสารภาพ บทลงโทษ
จะนับเป็นผู้กระท�าความผิดครั้งแรกเสมอ ซึ่งข้อมูลนี้ ยังมิได้นับรวมการตัดสินคดีของศาลในบางพื้นที่ที่ไม่มี
ส�านักงานคุมประพฤติ หรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล
๖. ปัจจุบันผู้ใช้รถใช้ถนนยังคงขับขี่ด้วยความเร็วที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งหากเกิดการชนจะมีโอกาส
เสียชีวิตได้สูง ซึ่งความเร็วรถที่ปลอดภัย คือ ในเขตเมืองและชุมชนไม่เกิน ๕๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกเมืองไม่เกิน
๙๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง จะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ความเร็วได้มากกว่าครึ่ง
โดยจากรายงานสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๘ ของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัย
ทางถนน และมูลนิธิไทยโรดส์ พบว่า ๒ ใน ๓ ของอุบัติเหตุและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนทางหลวง
มีมูลเหตุสันนิษฐานจากการใช้ความเร็ว โดยพบว่าประเภทของยานพาหนะที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุการใช้ความเร็ว
มากที่สุด คือ รถยนต์นั่งและรถกระบะปิคอัพประมาณร้อยละ ๕๐ และจากจ�านวนการจับกุมที่เพิ่มขึ้น
ของเจ้าหน้าที่ต�ารวจยังไม่ส่งผลให้อุบัติเหตุจากการใช้ความเร็วลดลง สอดคล้องกับผลการส�ารวจทัศนคติ
และความเห็นของผู้ใช้รถใช้ถนนในปี ๒๕๕๘ ซึ่งหากเมื่อพิจารณาที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับขี่
เมื่อถูกจับความเร็ว พบว่า ร้อยละ ๖๒ ประชาชนจะไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ร้อยละ ๒๐ เปลี่ยนพฤติกรรม
เพียงช่วงหนึ่ง และร้อยละ ๑๗ คิดว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมถาวร และยังพบว่าสาเหตุที่ขับรถเร็ว ร้อยละ ๔๒
๓๘ สถิติคดีอุบัติเหตุการจราจรทางบก จ�าแนกตามสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจากบุคคล สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม และสาเหตุจากอุปกรณ์ที่ใช้ขับขี่
ทั่วราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๔๙ - ๒๕๕๘
๓๙ ข้อมูลจากระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ