Page 60 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 60
๒.๓ การบูรณาการข้อมูลการตายจากข้อมูล ๓ ฐาน ได้แก่ ข้อมูลจากมรณบัตรและหนังสือรับรอง
การตาย เป็นระบบลงทะเบียนการตายของผู้เสียชีวิตทุกรายที่มีการแจ้งตาย ข้อมูลจากระบบ
POLIS เป็นระบบบันทึกข้อมูลคดี และข้อมูลจากระบบ E-Claim เป็นระบบบันทึกข้อมูล
ส�าหรับเบิกจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ ซึ่งคณะอนุกรรมการ
ด้านบริหารจัดการข้อมูล ติดตาม ประเมินผล ศูนย์อ�านวยการความปลอดภัยทางถนน
รับผิดชอบโดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนหลักในการบูรณาการข้อมูล พบว่า จ�านวน
58
ผู้เสียชีวิตลดลง จาก ๒๒,๘๘๖ คน (หรือ ๓๕.๖๖ ต่อแสนประชากร) ในปี ๒๕๕๔ เป็น ๒๒,๔๕๑ คน
(หรือ ๓๔.๙๓ ต่อแสนประชากร) ในปี ๒๕๕๕ เป็น ๒๒,๐๒๙ คน (หรือ ๓๔.๐๙ ต่อแสน
ประชากร) ในปี ๒๕๕๖ และ ๒๑,๔๓๒ คน (หรือ ๓๒.๙๙ ต่อแสนประชากร) ในปี ๒๕๕๗
ตามล�าดับ
๓. การจราจรทางถนนเป็นเงื่อนไขสำาคัญของการใช้ชีวิตประจำาวัน นโยบายด้านการคมนาคมขนส่ง
ของประเทศไทยมุ่งเน้นไปที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางการคมนาคม โดยเฉพาะการสร้าง ซ่อมบ�ารุง
ถนนเป็นหลัก แต่นโยบายด้านการบริการขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะกลับได้รับ
การพัฒนาไม่มากนัก มากไปกว่านั้น โครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งอื่นๆ ก็มิได้ถูกจัดล�าดับความส�าคัญ
๓๔
ในการมุ่งพัฒนา ส่งผลให้ทางเลือกในการเดินทาง และทางเลือกในการใช้ยานพาหนะมีอยู่อย่างจ�ากัด
จึงส่งผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง (vulnerable road users)
ค่อนข้างมาก ซึ่งกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทยถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่ส�าคัญ
แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
รถจักรยานยนต์ ถือเป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งจากกลุ่มนักเรียน วัยรุ่น
ตลอดจนวัยทำางาน รายงานการศึกษาที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า เงื่อนไขส�าคัญของการเลือกใช้รถจักรยานยนต์
๓๕
ในประเทศไทย ๕ สาเหตุหลัก ประกอบด้วย ความสะดวกรวดเร็ว การประหยัดค่าใช้จ่าย การไม่สามารถเข้าถึง
บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ การเข้าถึงบริการขนส่งมวลชนสาธารณะได้ยาก และการใช้จักรยานยนต์
เพื่อการพักผ่อน จึงเป็นเหตุให้ประเทศไทยมีจ�านวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนสะสมสูงถึง ๒๐,๒๗๖,๘๐๖
คัน ซึ่งยังไม่นับรวมรถจักรยานยนต์สาธารณะอีกกว่า ๑๙๘,๔๖๓ คัน ข้อมูลจำานวนรถจักรยานยนต์
๓๖
จดทะเบียนสะสมตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ ๔๒๘,๑๕๐ คัน โดยล่าสุด
ปี ๒๕๕๙ มีจ�านวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนสะสมทั้งสิ้น ๒๐,๒๗๖,๘๐๖ คัน คิดเป็นร้อยละ ๕๔ ของรถ
จดทะเบียนทั้งหมด ซึ่งลดจ�านวนลงจากปี ๒๕๕๘ (ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ในปี ๒๕๕๘ มีรถจักรยานยนต์
จ�านวนสะสม ๒๐,๓๐๘,๒๐๑ คัน) และมีจ�านวนรถที่จดทะเบียนสะสม ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕, ๒๕๕๖,
๒๕๕๗, ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ เท่ากับ ๓๒,๔๗๖,๙๗๗ คัน ๓๔,๖๒๔,๔๐๖ คัน ๓๕,๘๓๕,๑๘๐ คัน ๓๖,๗๓๑,๐๒๓ คัน
และ ๓๗,๓๓๘,๑๓๙ คัน ตามล�าดับ) แสดงให้เห็นว่ารถจักรยานยนต์ รถจดทะเบียนทั้งหมด เพิ่มจ�านวนขึ้น
๓๔ ศักดิ์สิทธิ์ เฉลิมพงศ์. ๒๕๕๔. ความเหลื่อมล�้าและความไม่เป็นธรรมในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะด้านคมนาคมและ
ขนส่งในประเทศไทย. ในปาฐกถาเสาหลักของแผ่นดิน ชุดความเหลื่อมล�้าและความไม่เป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากรและบริการพื้นฐาน
ของประเทศไทย, ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔. สืบค้นเมื่อ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๐ จาก http://www.cuurp.org/thaiequity/resources/๘th/๘th%๒๐
Agenda.pdf
๓๕ มูลนิธิไทยโรดส์และเครือข่าย ร่วมกับ Road Safety Watch ได้ส�ารวจสาเหตุในการเลือกใช้รถจักรยานยนต์เมื่อปี ๒๕๕๓ จากกลุ่มตัวอย่าง
๗๐,๐๐๐ ราย
๓๖ ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ กรมการขนส่งทางบก