คุยกับผู้จัดการ สสส. (เดือนพฤศจิกายน 2568)

สวัสดีครับเพื่อนร่วมสร้างสุขทุกคน

                   “วันคล้ายวันเกิด” หลายคนระลึกถึงผู้มีพระคุณที่ให้กำเนิดผู้ที่เลี้ยงดูอุ้มชูให้เติบโต หรือเฉลิมฉลองเพื่อขอบคุณทุกคนที่เป็นองค์ประกอบให้เรามีชีวิตที่มีความสุข

                    วันเกิดขององค์กรก็คงไม่ต่างกัน สสส. ได้ครบรอบวันเกิด 24 ปี เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา การนับวันดังกล่าวเป็นวันเกิด เนื่องจาก พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้เมื่อ วันที่ 8 พ.ย. พ.ศ. 2544

                    ผู้ให้กำเนิดหรือผู้มีพระคุณของ สสส. มีหลายบุคคล หลายท่าน ซึ่งรวมถึง ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ที่มีส่วนร่วมในการคิด วางแผนในการร่าง พ.ร.บ. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ผ่านร่าง พ.ร.บ. และภาคประชาสังคม และภาคประชาชนที่สนับสนุนให้ สสส. กำเนิดขึ้น ตลอดจนภาคีเครือข่ายที่อุ้มชูด้วยการทำงานร่วมกัน

                    ทุกย่างก้าวของ สสส. จึงเต็มไปด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนการเรียนรู้ การยอมรับฟังความคิดเห็น การน้อมตัว ถ่อมตัว เพื่อพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ

                   การเดินทางของ สสส. เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในประเทศยังคงต้องเดินต่อไปอย่างมุ่งมั่น ท่ามกลางโรคไม่ติดต่อ (NCDs) พยายามสร้างสมดุลกับระบบทุนนิยม ที่เร่งเร้ากิเลสของประชาชนให้มีการบริโภคนิยมที่มากขึ้นและเพิ่มขึ้น การพายเรือทวนน้ำท่ามกลางสายน้ำที่เชี่ยวกรากของระบบบริโภคนิยมและธุรกิจเสรี จึงจำเป็นต้องมีเข็มทิศและหางเสือ ให้ไปถูกทิศอย่างมั่นคง

                   ระบบข้อมูลที่ดี นับเป็นเข็มทิศและหางเสือที่กำหนดทิศทางของการสร้างเสริมสุขภาพที่จะระบุพื้นที่และบุคคลที่เฉพาะเจาะจง ในการจัดกิจกรรมและกระบวนการ การมีเสากระโดงและใบเรือที่แข็งแรง หมายถึงการมีภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง เปี่ยมด้วยจิตอาสาที่จะช่วยให้เรือแล่นไปอย่างมั่นคงสู่สังคมสุขภาวะได้ในที่สุด

                   สสส. ได้พยายามใช้นโยบายขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Policy) เพื่อใช้ข้อมูลสนับสนุนการขับเคลื่อนสังคมให้เป็นสังคมขับเคลื่อนด้วยการใช้ข้อมูล (Data-Driven Society) เช่น การที่ สสส. สนับสนุนการสำรวจสุขภาพคนไทยด้วยการตรวจร่างกาย อย่างต่อเนื่อง จนครั้งล่าสุดเป็นครั้งที่ 7

                   ผลการสำรวจพบว่า สุขภาพคนไทยแย่ลงในเกือบทุกด้าน ทั้ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วน ไขมันในเลือดสูง การบริโภคอาหารเค็ม การดื่มสุรา การออกกำลังกายไม่เพียงพอ มีเพียงอย่างเดียวที่ดีขึ้นคือ อัตราการสูบบุหรี่ที่ลดลง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ก็พบว่า สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และมาเลเซีย ส่วนใหญ่ก็มีแนวโน้มของโรค NCDs เพิ่มขึ้นเช่นกัน

                   ที่น่าสนใจคือ ผลการสำรวจยังพบว่า ภาคเหนือดื่มสุราหนัก และมีภาวะเอนไซม์ตับในเลือดสูง ภาคใต้สูบบุหรี่สูงมาก ภาคกลาง มีภาวะอ้วน และไขมันในเลือดสูง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความชุกของโรคเบาหวาน และเสียชีวิตจากเบาหวานสูง ทั้งหมดนี้จำเป็นต้องนำข้อมูลต่าง ๆ มาร้อยเรียงต่อจิ๊กซอว์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม ร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคมและภาคประชาชน

                   เพราะสุขภาพที่ดี ไม่ใช่แค่เพียงปัญหาของบุคคลคนนั้น แต่เป็นปัญหาของประเทศ ทั้งการใช้ทรัพยากรในการดูแลการเจ็บป่วยและความพิการในระยะท้าย และการสูญเสียโอกาสในการใช้ศักยภาพของบุคคลในการพัฒนาประเทศ ดังนั้นจึงเป็นสิทธิ์และหน้าที่ของทุกคนที่จะช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศของทุกคน ให้หลุดจากกับดักของวัฏจักรแห่งความเจ็บป่วยเรื้อรังที่ดูเหมือนไม่มีวันจบ ด้วยจุดแข็งของสังคมไทยที่เป็นสังคมที่เอื้ออาทร และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

                   ย่างก้าวต่อไป จึงเป็นย่างก้าวที่แม้มีข้อมูลมากก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นย่างก้าวแห่งความร่วมมือ ลดอคติ ลดการทะเลาะกัน เพื่อสุขภาวะของคนไทย ที่จะกลายเป็นความสุขไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความสุขมวลรวมของคนไทยทุกคน

Shares:
QR Code :
QR Code