คุยกับผู้จัดการ สสส. (เดือนพฤศจิกายน 2565)
สวัสดีครับ เพื่อนร่วมสร้างสุขทุกคน
ช่วงนี้ หลายท่านอาจสังเกตเห็นตัวหนังสือใหม่สามคำใต้โลโก้ สสส.
สานพลัง สร้างนวัตกรรม สื่อสารสุข
นั่นเป็นการพยายามสื่อสารเพิ่มขึ้นของเราในการแสดงถึงบทบาทหลักสำคัญของ สสส. ในการเดินทางสร้างสุขภาวะตลอด 21 ปีที่ผ่านมา
ในการศึกษาถึงการแสดงถึงภาพลักษณ์ของ สสส. หรือ Brand Expression เราได้เรียนรู้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ จะรับรู้ภาพของ สสส. ในบทบาท “สื่อสารสุข” ชัดเจนกว่าด้านอื่น ๆ อันอาจเนื่องมาจาก “สารสุขภาพ” ของ สสส. ได้ถูกสื่อเข้าถึงคนวงกว้างกว่าการได้รับรู้สัมผัสกับบทบาทอื่น
อย่างคำว่า “สานพลัง” ก็นับเป็นเรื่องที่เป็นหัวใจของการทำงานของ สสส. ที่ได้สานผู้คนและองค์กรจำนวนมาก จากทุกภาคส่วน หลากหลายวิทยาการ หรือที่ สสส. ใช้คำว่า “ภาคี” ให้เข้ามาร่วมกันสร้างเสริมสุขภาพ
ในวาระ 20 ปี สสส. เราก็ใช้ชื่องานว่า “20 ปี ภาคีสร้างสุข” เพื่อสะท้อนถึงว่า ผลงานทั้งหลายทั้งปวงที่สร้างผลลัพธ์ทางสุขภาพในสองทศวรรษที่ผ่านมาของ สสส. เกิดจากน้ำมือ แรงกาย แรงใจ พลังความคิดของภาคีสร้างเสริมสุขภาพจำนวนมากมายและกว้างขวาง ไม่ใช่เพียงผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ สสส. เพียงไม่กี่สิบไม่กี่ร้อยคน
ขณะที่คำว่า “สร้างนวัตกรรม” ยังเป็นบทบาทที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่สู้จะ “อิน” มากนัก ว่าเป็นอีกบทบาทสำคัญของสสส.
เราจึงควรต้องพยายามแสดงถึงบทบาทนี้ ให้เป็นที่รับรู้ เข้าใจให้มากขึ้น
จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพได้ก่อตั้งขึ้น
องค์กรนี้ด้วยตัวของมันเอง ก็นับว่าเป็น “นวัตกรรมทางการเงินการคลังเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ” หรือที่องค์การอนามัยโลกใช้คำว่า Innovative financial mechanism for health promotion ด้วยการที่รัฐออกกฎหมายให้มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มร้อยละ 2 จากสินค้าที่ส่งผลทำลายสุขภาพ เพื่อนำมาสร้างเสริมสุขภาพ
กระบวนการสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเชิงรุก ด้วยการ “จุดประกาย กระตุ้น สาน เสริมพลัง” เพื่อนำทุกภาคส่วนมาร่วมเป้าหมายการปรับพฤติกรรมวิถีชีวิตและสร้างสังคม สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี ก็นับเป็นกระบวนการใหม่ในการผลักดันให้เกิดการสร้างสุขภาวะ โดยเน้นที่การแก้ปัญหาที่ต้นน้ำ นอกกรอบไปจากของ “การบริการสุขภาพ” ที่เป็นบทบาทหลักดั้งเดิมของการส่งเสริมสุขภาพของภาคสาธารณสุข
ลงลึกไปที่กระบวนการทำงานของแผนงานโครงการสร้างเสริมสุขภาพต่าง ๆ จะพบว่า สสส. จะไม่เน้นการให้บริการประจำ หรือวิธีการรูทีนที่ทำกันมา แต่พยายามหาช่องทางใหม่ที่จะแก้ปัญหาเรื้อรัง หาทางทะลวงคอขวดที่เคยอุดตันอยู่ หรือขยายมาตรการสำคัญให้แผ่ขยายไปสู่ประชาชนวงกว้าง
มีกฎหมายระดับชาตินับร้อย ถูกผลักดันออกมาแก้ปัญหาสุขภาพ นโยบายระดับต่าง ๆ ออกมาปรับกติกาสังคมให้เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดีมากขึ้น
มีการสร้างสรรค์เครื่องมือ กลไก ต้นแบบ แอปพลิเคชัน สิ่งประดิษฐ์ ฯลฯ ด้านสุขภาพ
โดยเฉพาะในภาวะที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “การสร้างนวัตกรรมเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะ” ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายในการสร้างสุขภาวะที่ตอบสนองต่อสังคมและเทคโนโลยีที่กำลังเคลื่อนทะยานไปข้างหน้า
“นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ” มีองค์ประกอบที่สำคัญอย่างน้อย 3 ประการ คือ เป็นสิ่งใหม่ ใช้แก้ไขปัญหา และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยอาศัยผลของรูปแบบการทำงานของ สสส. และภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเพื่อจุดประกายความคิด กระตุ้นการริเริ่มการทำงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมการสร้างเสริมสุขภาพได้ในที่สุด
ปัจจุบันยังมีปัญหาสุขภาวะอีกหลากหลายรูปแบบที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา จำเป็นต้องมีการระดมความคิด ปลูกฝังแนวคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมสร้างสุขภาวะให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่ง สสส. ได้สนับสนุนการสรรค์สร้างนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพของคนรุ่นใหม่ผ่านหลาย ๆ ช่องทาง
ตัวอย่างหนึ่งที่เรานำมาเล่าสู่กันฟังในฉบับนี้ ก็เช่น “โครงการ ThaiHealth Inno Award” ได้ริเริ่มตั้งแต่ปี 2560 และถูกยกระดับเป็นรางวัลระดับชาติ Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2022 ผลงานที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมกิจกรรม “Innovation Camp” โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขามาช่วยพัฒนาองค์ความรู้ สร้างพลังความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาผลงานและต่อยอดงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปีนี้มีความพิเศษคือ ได้ขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่ม 2 กลุ่ม คือ บุคคลทั่วไป กลุ่ม Startup และกลุ่มภาคีเครือข่าย สสส. เพื่อยกระดับให้ผลงานนวัตกรรมนำไปใช้ได้จริง
ภาพรวมของภาพประกอบชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหล่านี้ เราหวังจะนำไปสู่การเห็นองค์รวมของการทำงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. มากยิ่งขึ้น ในภาพของ
“สานพลัง สร้างนวัตกรรม สื่อสารสุข”