คุยกับผู้จัดการ สสส. (เดือนสิงหาคม 2568)

สวัสดีครับเพื่อนร่วมสร้างสุขทุกคน

        งดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ มีแคมเปญว่า “มีสติ มีสุข ทุกโอกาส” ทุกท่านคงมีคำถามว่า ทำไมสติจึงสำคัญ และทำไมมีสติ จึงทำให้มีความสุข

        ย้อนกลับไปในช่วงที่ผมเป็นแพทย์ใช้ทุนและเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลในชนบทกว่า 10 ปี ผมได้พบกับภรรยาที่ถูกสามีเตะจนไตแตก ปัสสาวะออกมาเป็นเลือด เช้าวันต่อมาสามีมากราบภรรยาที่เตียงบอกว่า “ขอโทษด้วย พี่เมาขาดสติไปหน่อย”

        อีกเหตุการณ์หนึ่ง ผมได้เจอกับหนุ่มที่เสียใจเมาหนัก จนดื่มยาฆ่าหญ้าเพื่อฆ่าตัวตาย เมื่อฟื้นขึ้นมา บอกว่า หมอช่วยหน่อย “ไม่อยากตายแล้ว” แต่ปริมาณยาฆ่าหญ้าที่กินไปปริมาณมาก จนช่วยไม่ไหว สุดท้ายอีก 1 สัปดาห์ก็ต้องตายจากไปจริง ๆ

        อีกเคสเด็กหนุ่มที่เมาแล้วขับ เกิดอุบัติเหตุจนเลือดออกในสมอง พิการตลอดชีวิต แต่พ่อและแม่ หลังจากดูแลเด็กหนุ่มคนนี้นาน 15 ปี ก็ต้องหย่าร้างกัน เพราะทะเลาะกันเรื่องลูกทุกวัน

         ความทุกข์ทั้งหมดนี้ มาจากการขาดสติ เขาเหล่านั้นกลับทำลายมันด้วยฤทธิ์ของสุรา สุดท้ายทั้งตัวเขาและคนรอบข้างต้องรับเคราะห์ และนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเปลี่ยนจากการเรียนด้านการผ่าตัด มาเรียนด้านเวชศาสตร์ป้องกัน และมาทำงานรณรงค์ลดละเลิกสุราจนถึงทุกวันนี้

         มีอาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า “ขอให้เกลียดการดื่มสุรา แต่อย่าเกลียดคนดื่มสุรา เพราะคนดื่มสุรานั้นเป็นเพียงเหยื่อในการติดสุรานั่นเอง”

         สสส. ได้ร่วมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษามานานถึง 22 ปี ตั้งแต่ปี 2546 และดีใจที่ว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมามีคนไทยร่วมงดดื่มเข้าพรรษากว่า 13 ล้านคน ผู้งดดื่มรู้สึกดีต่อสุขภาพกาย 48.5% ดีต่อสุขภาพใจ 31.4% ประหยัดค่าใช้จ่าย 40.5%

         “งดเหล้าเข้าพรรษา” จึงเป็นโอกาสดี ในการทดลองคืน “สติ” ให้กับตัวเอง คืน “ตับที่แข็งแรง” ให้กับร่างกาย คืน “พลังใจ” ให้กับครอบครัว คืน “เงิน” เข้ากระเป๋าตังค์ไปใช้จ่ายที่จำเป็น และหวังว่า จะเป็นโอกาสสำคัญที่หลายคนจะได้ “ทบทวน” แล้วหยุดดื่มได้อย่างแท้จริง

         “ไม่มีปริมาณการดื่มที่ปลอดภัย สำหรับสุรา” เป็นคำกล่าวขององค์การอนามัยโลก ที่ย้ำเตือนว่า “อย่าปล่อยให้สุราทำลายร่างกาย จิตใจเราและสติของเรา แม้แต่นิดเดียว” ในปี 2568 สสส. และภาคีเครือข่าย จำนวน 6,050 แห่ง ได้เข้าร่วมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา

         สถานศึกษา 2,500 แห่ง เข้าร่วมโครงการ “ลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า” ชุมชน 1,178 แห่ง เข้าร่วมโครงการ “คนหัวใจหิน คนหัวใจเหล็ก คนหัวใจเพชร” อำเภอ 150 แห่ง องค์กรต่าง ๆ 2,222 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการ ด้วยความหวังว่า จะช่วยให้คนไทยรวมพลังกัน ดูแลสุขภาพกายใจซึ่งกันและกัน

         ปัญหาใหญ่อีกอย่างของประเทศไทยคือ คนไทยที่เป็นโรคเบาหวาน ถึง 6.5 ล้านคน (ณ พ.ย. 2567) หรือคิดเป็น 10% ของประชากรไทย และกำลังมีเบาหวานรายใหม่เพิ่มขึ้น 300,000 คนทุกปี คนไทยบริโภคน้ำตาลสูงถึง 23 ช้อนชา ในปี 2564 สูงกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ คือ ไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน

         เมื่อกินเกิน ไม่ออกกำลังกาย ก็อ้วนลงพุง มีไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ก็จะตามมา ความดันโลหิตที่สูงทำให้หลอดเลือดเสียหาย น้ำตาลสูง ทำให้หลอดเลือดอักเสบ จนมีภาวะตีบตันที่หลอดเลือดหัวใจ กลายเป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และเสียชีวิต หากตีบตันที่หลอดเลือดสมอง กลายเป็นอัมพาต ตีบตันที่ไต กลายเป็นไตวาย ต้องล้างไต

         หากเราดักทางก่อนเกิดโรคจะช่วยลดความรุนแรงได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ที่สามารถรักษาหายได้เพราะเบาหวานเป็นโรคจากพฤติกรรม แก้ไขได้ด้วยพฤติกรรม ไม่ใช่ยาลดน้ำตาลในเลือด การลดน้ำหนักได้ 3-5 กิโลกรัม ด้วยการนับคาร์บและกินคาร์บที่พอเหมาะ โปรตีนที่เพียงพอ ออกกำลังกายเหมาะสม ก็อาจจะทำให้เบาหวานหายได้

         ปัจจุบันนี้โรคต่าง ๆ ที่เรากำลังป่วยและทำให้เราตายอาจจะไม่ใช่โรคที่ต้องพึ่งพาหมอ แต่เป็นโรค NCDs ที่ต้องพึ่งพาจิตใจ ที่จะควบคุมกิเลสและร่างกายของเรา สติที่จะควบคุมมือของเราที่จะไม่หยิบกินอาหารทำลายสุขภาพ ไม่ตามใจที่จะนอนเนือยนิ่ง แต่ไปออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และนั่นคือ…ความสำคัญอีกอย่างของ “สติ” ที่เป็นหนทางไปสู่สุขภาวะที่แท้จริง ที่อยู่ในมือของเรา

Shares:
QR Code :
QR Code