Page 213 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 213
๑.๔ เกิดแกนน�าสร้างเสริมสุขภาพ จ�านวน ๖,๐๐๐ คน ที่มีขีดความสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงด้าน
การสร้างเสริมสุขภาพในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน
๒. หน่วยจัดการ
๒.๑ หน่วยจัดการสามารถกระจายโอกาสการด�าเนินงานสร้างเสริมสุขภาพไปยังพื้นที่ที่ยังเข้าไม่ถึง
ทุนสนับสนุนจาก สสส. หรือประชากรกลุ่มที่ขาดโอกาส โดยเป็นภาคีรายใหม่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ (๑,๒๐๐
โครงการ) ของโครงการที่สนับสนุน
๒.๒ หน่วยจัดการมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการเชิงผลลัพธ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของ
หน่วยจัดการทั้งหมด
๒.๓ หน่วยจัดการระดับจังหวัด จ�านวน ๕ แห่ง มีขีดความสามารถในการบริหารจัดการเชิง
ยุทธศาสตร์ในการสนับสนุนงานสร้างเสริมสุขภาพที่เป็นปัญหาของพื้นที่ โดยท�างานประสานความร่วมมือ
กับภาคส่วนต่างๆ ในจังหวัด
๓. เกิดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพหรือชุดความรู้ จ�านวน ๔ เรื่อง ที่สามารถน�ามาใช้ประโยชน์หรือ
ขยายผลการด�าเนินงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพได้
๔. เกิดระบบสนับสนุนการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
๔.๑ ระบบคลังข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการ จ�านวน ๑ ระบบ
๔.๒ กรอบการประเมินผลเพื่อการเรียนรู้และพัฒนา (standard practice) ที่น�ามาประเมินผล
การด�าเนินงานหน่วยจัดการระดับจังหวัด (Node จังหวัด) และ การประเมินผลชุดโครงการชุมชนน่าอยู่
๔.๓ เครือข่ายทีมพัฒนาศักยภาพและเสริมพลังภาคี ระดับภาค อย่างน้อย ๓ ภาค
ตัวชี้วัดร่วม
๑. สนับสนุนโครงการสร้างเสริมสุขภาพที่สอดคล้องกับเป้าหมายเฉพาะในทิศทาง เป้าหมาย และ แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
ยุทธศาสตร์ ๑๐ ปี สสส. ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (๑,๐๐๐ โครงการ) ของโครงการที่สนับสนุน เช่น
๑.๑ ร่วมกับแผนควบคุมยาสูบ ขยายผลการด�าเนินงานควบคุมยาสูบในระดับพื้นที่โดยชุมชน
เป็นฐาน สร้างมาตรการหรือสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อการลดอัตราการสูบบุหรี่
๑.๒ ร่วมกับแผนควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด ขยายผลการด�าเนินงาน/มาตรการ
ในระดับหมู่บ้าน/ชุมชนเพื่อลดละเลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 211
๑.๓ ร่วมกับแผนจัดการความปลอดภัยทางถนนและปัจจัยเสี่ยงทางสังคม ขยายผลการด�าเนินงาน
เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย (อุบัติเหตุ การจมน�้า)
๑.๔ ร่วมกับแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย ขยายผลองค์ความรู้หรือนวัตกรรมการด�าเนินงาน
เพื่อเพิ่มกิจกรรมทางกาย และลดพฤติกรรมเนือยนิ่งของประชากรกลุ่มต่างๆ
๒. สนับสนุนโครงการสร้างเสริมสุขภาพของประชากรกลุ่มเฉพาะไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๕ ของโครงการ
ที่สนับสนุน

