Page 209 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 209








เนื่องจากหน่วยจัดการแต่ละกลุ่ม/ประเภทต่างมีจุดเด่นและข้อจ�ากัดแตกต่างกัน จึงต้องวิเคราะห์

และออกแบบการพัฒนาศักยภาพเพื่อเติมเต็มให้หน่วยจัดการมีสมรรถนะในการด�าเนินงานตามบทบาท
ภารกิจที่ส�านักคาดหวัง ซึ่งพบว่าปัจจัยความส�าเร็จส�าคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการด�าเนินงานของหน่วย

จัดการที่จะส่งผลต่อเนื่องไปยังความส�าเร็จของโครงการย่อย ได้แก่ ๑) ด้านการบริหารจัดการทีม ไม่ว่าจะ
เป็นการจัดการภาระงาน การท�าความเข้าใจเป้าหมายร่วมและบทบาทภารกิจ การสื่อสารภายใน การติดตาม
ความก้าวหน้าการด�าเนินงานภายในทีม และ ๒) ด้านศักยภาพและสมรรถนะ ทั้งการเก็บข้อมูลผลลัพธ์

และการใช้ข้อมูล การวิเคราะห์ช่องว่างการด�าเนินงานของชุมชน การเสริมพลังชุมชน การถอดบทเรียน ฯลฯ
นับเป็นความรู้และทักษะที่ส�าคัญต่อการพัฒนากลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น อีกทั้งยังเป็นความรู้และทักษะส�าคัญ

ในการสรุปผลความส�าเร็จและบทเรียนในการท�างานต่อของโครงการย่อยอีกด้วย

หน่วยจัดการส่วนใหญ่จะรับรู้นโยบาย ทิศทาง เป้าหมายการด�าเนินงานของแผนทั้งเป้าหมายของ
การเป็นหน่วยจัดการและเป้าหมายของชุมชน อีกทั้งมีความเข้าใจและมีสมรรถนะเรื่องการติดตามประเมิน
เชิงผลลัพธ์เพิ่มมากขึ้น แต่ยังมีข้อจ�ากัดในการสื่อสารหรือถ่ายทอดให้ค�าปรึกษาแก่ทีมของหน่วยจัดการและ

ชุมชนให้มีความเข้าใจเรื่องผลลัพธ์ได้อย่างครอบคลุมและชัดเจน

แม้ว่าหน่วยจัดการมีโอกาสที่จะช่วยลดช่องว่างการสนับสนุนทุนในช่องทางเปิดรับทั่วไปที่ส�านัก
ให้การสนับสนุนโครงการได้ค่อนข้างน้อย แต่ยังต้องเร่งพัฒนากลไกการประเมินและเสริมพลังการด�าเนินงาน

ของหน่วยจัดการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บางหน่วยจัดการมีโอกาสและความเป็นไปได้ในการพัฒนายก
ระดับการด�าเนินงานของตนเองไปสู่การด�าเนินงานที่ท้าทายใน ๓ ลักษณะ ได้แก่ (๑) หน่วยจัดการที่จะ
ช่วยกระจายโอกาสไปยังพื้นที่ที่ขาดโอกาสตามประเด็น/เมนูขนาดเล็กที่ สสส. ก�าหนด (๒) หน่วยจัดการที่

สามารถขยายพื้นที่สุขภาวะในโจทย์ท้าทายตามประเด็นปัญหาเฉพาะของพื้นที่ หรือรับโจทย์ผ่านกลไกเขต
สุขภาพเพื่อประชาชน (๓) หน่วยจัดการที่ปรับเปลี่ยนบทบาทมาด�าเนินงานในส่วนของการประเมินผล
ซึ่งส�านักจะต้องพัฒนาวิธีการตรวจสอบสมรรถนะของแต่ละหน่วยจัดการว่ามีความเหมาะสมที่จะด�าเนินงาน

ในรูปแบบใด รวมทั้งจะต้องมีการออกแบบการพัฒนาศักยภาพให้สอดคล้องกับบทบาทของหน่วยจัดการ
ที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละรูปแบบด้วย แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑

๓.๒ การวิเคราะห์ภาคีรับทุนทั่วไป ในช่วงปี ๒๕๕๘ – ๒๕๖๐ แผนให้การสนับสนุนโครงการแก่

ภาคีรับทุน ๔ ประเภท ได้แก่ ผู้รับทุนประเภทชุมชน/หมู่บ้าน หน่วยงานราชการในระดับพื้นที่ (อาทิ โรงเรียน
อปท. หน่วยงานสาธารณสุข) องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) และนักวิชาการ/นักวิจัย สถาบันการศึกษา ภาคี
รับทุนทั้ง ๔ ประเภทมีจุดเด่นและข้อจ�ากัดร่วมกันหลายประการ ได้แก่


ประการแรก ทักษะในการพัฒนาโครงการ การบริหารจัดการโครงการ และการสังเคราะห์งาน 207
จะเป็นข้อจ�ากัดของภาคีประเภทชุมชน/หมู่บ้าน และกลุ่มพัฒนาองค์กรภาคเอกชน แต่จะเป็นจุดเด่นของภาคี
ประเภทหน่วยงานราชการและนักวิชาการ/นักวิจัย สถาบันการศึกษา

ประการที่สอง ความสามารถในการเข้าใจพื้นที่ รู้ความต้องการพื้นที่ และมีความคล่องตัว

ในการเสริมพลังชุมชน จะเป็นจุดเด่นของภาคีชุมชน/หมู่บ้าน และองค์กรพัฒนาเอกชน แต่จะเป็นข้อจ�ากัด
ของภาคีนักวิชาการ/นักวิจัย สถาบันการศึกษา และหน่วยงานราชการที่อยู่ไกลจากพื้นที่
   204   205   206   207   208   209   210   211   212   213   214