Page 122 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 122
ชีวิตของมุสลิมไทยหลายดัชนีด้อยกว่าประชากรไทยโดยเฉลี่ยในประเด็นหลัก คือ ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ
สังคมและการศึกษา รวมถึงปัญหาสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้านสุขภาพ ตัวบ่งชี้ภาพรวมของสถานการณ์สุขภาวะของมุสลิมไทยคือ อายุมัธยฐานซึ่งเท่ากับ ๒๗.๐ ปี
ซึ่งน้อยกว่าอายุมัธยฐานของคนไทยทั่วไปคือ ๓๔.๗ ปี (ส�ามะโนประชากรและเคหะ ๒๕๕๓) ทั้งนี้อายุมัธยฐาน
๑๐๑
๑๐๒
ของมุสลิมไทยใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้น้อยกว่า (๒๕.๐ ปี) โดยดัชนีการพัฒนาคน ปี ๒๕๕๘ ระบุว่า
120 จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส อยู่ในห้าจังหวัดที่มีความก้าวหน้าด้านสุขภาพน้อยที่สุดหรือล้าหลัง
๑๐๓
มากที่สุด ส่วนงานวิจัยของแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย ในปี ๒๕๕๘ พบว่า มุสลิมออกก�าลังกาย
และบริโภคผักและผลไม้มากกว่า และได้รับการตรวจยืนยันว่าเป็นโรคเบาหวานร้อยละ ๓.๓ ซึ่งถือว่าน้อย
เมื่อเทียบกับร้อยละ ๔.๓ ของคนไทยทั่วไป แต่เป็นโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ ๙.๙ สูงกว่าคนไทยโดย
เฉลี่ยที่ร้อยละ ๙.๑ ด้านพฤติกรรมสุขภาพและการบริโภคยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมุสลิมไทย
พบว่า มุสลิมไทยมีอัตราการบริโภคยาสูบและค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคยาสูบ (๑๐๖.๐๐ บาท/ครัวเรือน)
สูงกว่าประชากรทั่วไป (๙๑.๐๐ บาท/ครัวเรือน) แต่หากพิจารณาแนวโน้มระหว่างปี ๒๕๕๖ – ๕๕๘ พบว่า
ค่าใช้จ่ายในการบริโภคบุหรี่ของครัวเรือนมุสลิมไทยลดลง ๓๓ บาท/เดือน ซึ่งมากกว่าครัวเรือนไทยโดยทั่วไป
(ลดลง ๒๐ บาท/เดือน) อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบสัดส่วนค่าใช้จ่ายของการบริโภคบุหรี่ในค่าใช้จ่ายรวมของ
ครัวเรือนมุสลิมไทย ในปี ๒๕๕๘ (ร้อยละ ๐.๕๖) ยังสูงกว่าครัวเรือนไทยโดยทั่วไป (ร้อยละ ๐.๔๓) นอกจากนี้ข้อมูล
จากการประเมินสถานการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบการเลิกสูบได้ส�าเร็จ และการสัมผัสควันบุหรี่มือสองที่บ้าน
ในพื้นที่ ๔ จังหวัด และ ๔ อ�าเภอชายแดนใต้ในปี ๒๕๕๘ พบว่ามีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบปัจจุบันร้อยละ
๑๐๔
แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
๒๗.๖ ซึ่งถือว่ายังคงมีอัตราสูง ในขณะที่มีผู้ได้รับควันบุหรี่มือสองที่บ้านร้อยละ ๔๓.๗ โดยในงานวิจัยนี้
มีกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นประชากรมุสลิมร้อยละ ๘๘.๘ ยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับโทษพิษภัยจาก
การสูบบุหรี่และควันบุหรี่มือสอง ส่วนการบริโภคสุราซึ่งเป็นปัญหาในระดับประเทศไม่เป็นปัญหาในมุสลิมไทย
ซึ่งปัจจัยส�าคัญ คือ ค�าสอนของศาสนาอิสลามซึ่งควบคุมการบริโภคสุราอย่างเข้มงวด ๑๐๕
ด้านเศรษฐกิจ ข้อมูลจากการส�ารวจในปี ๒๕๕๘ ระบุว่า รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของมุสลิมไทย (๒๓,๘๖๖
๑๐๖
บาท) ต�่ากว่าคนไทยทั่วไป (๒๖,๖๕๒ บาท) ถึงร้อยละ ๑๐ ในด้านปัญหาความยากจนสัดส่วนคนจนของ
ครัวเรือนมุสลิมมีค่าสูงกว่าทั้งประเทศกว่าเท่าตัว และปัญหาความยากจนของมุสลิมรุนแรงมากในจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งของมุสลิมไทยอาศัยอยู่ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนคนจนของครัวเรือนมุสลิม
ในปี ๒๕๕๘ คิดเป็นร้อยละ ๑๘.๘๑ ซึ่งลดลงจากร้อยละ ๑๙.๗๗ ในปี ๒๕๕๖ ในขณะที่สัดส่วนคนจนของครัวเรือน
ทั้งประเทศในปี ๒๕๕๘ คิดเป็นร้อยละ ๗.๒๑ ซึ่งลดลงจากร้อยละ ๑๐.๙๔ ในปี ๒๕๕๖ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาวะ
ความยากจนของครัวเรือนมุสลิมมีแนวโน้มลดลง เช่นเดียวกับครัวเรือนไทยโดยทั่วไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง
คนที่มีระดับรายได้ที่ยังอยู่ในฐานะยากจนในสัดส่วนที่สูง แต่ยังมีสัดส่วนคนจนลดลงบ้างเล็กน้อย แต่พื้นที่
๑๐๑ แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (เพื่อการพัฒนา), สำามะโนประชากรมุสลิมไทยปี ๒๕๕๓, มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย.
๑๐๒ ส�านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (๒๕๕๘). ดัชนีความก้าวหน้าของคน ปี ๒๕๕๘
๑๐๓ ศุภวรรณ มโนสุนทร และคณะ, (๒๕๕๕), รายงานสถานการณ์พฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อกลุ่มประชากรมุสลิม ภายใต้การสำารวจพฤติกรรม
เสี่ยงโรคไม่ติดต่อ, รายงานวิจัยเสนอต่อแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย.
๑๐๔ ซอฟียะห์ นิมะ, วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ และสาวิตรี อัษณางค์กรชัย (๒๕๕๘) การประเมินสถานการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ การเลิกสูบ
ได้สำาเร็จ และการสัมผัสควันบุหรี่มือสองที่บ้าน ในพื้นที่ ๔ จังหวัด และ ๔ อำาเภอชายแดนใต้. สถาบันการจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัย
สงขลานครินทร์.
๑๐๕ เซเรชา ถนอมวงศ์, (๒๕๕๙), งานวิจัยศึกษาเปรียบเทียบโครงสร้างรายได้และพฤติกรรมการบริโภคของมุสลิมไทยปี ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘.
๑๐๖ เซเรชา ถนอมวงศ์, (๒๕๕๙), งานวิจัยศึกษาเปรียบเทียบโครงสร้างรายได้และพฤติกรรมการบริโภคของมุสลิมไทยปี ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘.
