“สุรา-บุหรี่”อันตรายไม่แพ้ยาเสพติดชนิดใด

 



 


26 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็นวันที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็น “วันต่อต้านยาเสพติดโลก” เพื่อให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกตระหนักในปัญหาของยาเสพติด และพร้อมใจกันจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสม เพื่อช่วยกันขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปหรือเบาบางลงไปจากโลกนี้ หากแต่เมื่อพูดถึงยาเสพติดหลายคนคงนึกถึงแต่ ยาบ้า เฮโรอีน กัญชา ยาไอซ์ สารระเหยและอื่นๆ ที่ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายร้ายแรง แต่ลืมนึกถึง “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์”ที่มีขายอย่างดาษดื่นและหาซื้อได้ง่ายดาย ซึ่งมีโทษแก่ร่างกายไม่ต่างจากยาเสพติดชนิดอื่นๆ แต่อย่างใด


และจากสถิติที่มีมาก็พบว่าจำนวนเด็กวัยรุ่นที่ใช้ยาเสพติดนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และส่วนใหญ่จะเริ่มในช่วงอายุน้อยกว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะคาดคิด เกี่ยวกับเรื่องนี้ ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สคล. บอกกับเราว่า มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าแอลกอฮอลล์ถือเป็นสารเสพติดอย่างแน่นอน มีคุณสมบัติเมื่อดื่มใหม่ๆ ก็ไม่มาก แต่พอดื่มต่อไปก็จะมากขึ้นไปเรื่อยๆ พอขาดก็จะมีอาการผิดปกติทางร่างกายเกิดขึ้นเหมือนกับยาเสพติดชนิดอื่น เพียงแค่เป็นสิ่งเสพติดที่ถูกกฎหมายเท่านั้นเอง คนทั่วไปก็มองข้ามไป แต่ปัญหาและผลกระทบจากแอลกอฮอล์มันมากกว่าสิ่งเสพติดทุกชนิด เพราะมันฆ่าคนไทยไปแล้วกว่า 26,000 คน จากทั้งโรค 60 โรค  จากอุบัติเหตุ และอื่นๆ เช่น อาชญากรรม ฆ่าตนเอง ฆ่าคนอื่นอีกด้วย 


“ซึ่งภาพรวมแล้วผมมองว่าผลกระทบจากการเสพแอลกอฮอลล์มันหนักหนากว่ามาก เพราะมันทำลายชีวิตคนทั้งคน เหตุเพราะอาจหาซื้อง่ายกว่า แถมถูกกฎหมาย ซึ่งผลวิจัยล่าสุดระบุแล้วว่าคนไทยเข้าถึงแอลกอฮอลล์ได้ภายใน 5 นาที ซึ่งเมื่อก่อนยัง 7-10 นาที มันบ่งบอกได้ว่าทั้งง่ายและเข้าถึงเร็วถือว่าอันตรายมากๆ”นายสงกรานต์กล่าว


ผอ.สคล. บอกต่อว่า ถึงแม้ปัจจุบันภาพรวมของการบริโภคแอลกอฮอลล์ 4-5 ปีที่ผ่านมาจะลดลง แต่ที่น่าห่วงคือเยาชนและผู้หญิงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกับการทำงานทางการตลาดของธุรกิจเหล้าที่หันมาหาเป้าหมายที่เป็นเยาวชน โดยการใช้มิวสิกวิดิโอ สปอตมาเกตติ้ง  โดยช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาก็ใช้เซ็กมาเกิตติ้ง เรียกว่าเป็นการตลาดที่ไม่รับผิดชอบสังคม ซึ่งเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อปัจจุบันในหลายพื้นที่อายุต่ำที่สุดอยู่ที่ที่ชั้นประถม หรือประมาณ 6-8 ปี ถึงจะยังมีจำนวนตัวเลขที่มากนัก แต่นั่นก็เป็นสัญณาณเตือนว่าเราต้องระวังนักดื่มหน้าใหม่ที่อายุจะลดลงไปเรื่อยๆ ซึ่งจากปีที่ผ่านๆมา กลุ่มเด็กที่ต่ำสุดยังเป็นช่วงเด็กมหาลัย แต่ทุกวันนี้เด็กมัธยมศึกษาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ถือเป็นเรื่องปกติ  จนลามลงมาถึงเด็กประถมจึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างมาก ที่ต้องช่วยกันแก้ไขและทำงานกันต่อไปอีกเยอะ 


และสุดท้าย ผอ.สคล. กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ในวันต่อต้านยาเสพติดโลก อยากให้ตระหนักว่าสิ่งเสพติดที่ถูกกฎหมายมีความเสี่ยงมากกว่าสิ่งเสพที่ผิดกฎหมายเสียอีก และก็มีผลแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย เพราะน้ำเมาทำลายสติ เมื่อคนขาดสติก็สามารถทำความผิดได้ทุกเรื่อง อาจเสียอนาคตจนถึงชีวิตได้ ทางที่ดีเราอย่าไปประมาท อย่ามั่วคิดว่าสิ่งนั้นเป็นของที่ถูกกฎหมายไม่มีอันตรายเพราะคุณอาจไม่มีโอกาสได้คิดและตัดสินใจอีกครั้ง


สิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมายไม่ได้มีเพียงแอลกอฮอลล์ชนิดเดียว หากแต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่อันตรายไม่แพ้กันเลยนั่นก็คือ“บุหรี่”เพราะหาซื้อง่ายไม่ต่างกัน ซึ่งสิ่งเสพติดชนิดนี้คร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 6 ล้านชีวิตต่อปีหรือ 8 วินาทีต่อ 1 คน ด้วยโรคนานับชนิด อีกทั้งควันบุหรี่ยังทำร้ายคนรอบข้างได้เทียบเท่าผู้สูบเองถือเป็นเรื่องอันตรายสะสมไม่แพ้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมายเช่นกัน อีกทั้งกลุ่มที่น่าเสี่ยงมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นกลุ่มเยาวชนที่ปัจจุบันมีมากถึง 1.6 ล้านคนที่ติดบุหรี่


อีกทั้งเมื่อติดบุหรี่แล้วเยาวชนไทยก็จะมีความเสี่ยงที่จะดื่มสุรา ใช้ยาเสพติดชนิดอื่นๆ เที่ยวกลางคืน มีเพศสัมพันธ์ และเล่นการพนันซึ่งทั้งหมดล้วนจะตามมาด้วยปัญหาสังคมด้วยกันแทบทั้งสิ้น…แล้วแบบนี้ยังถือว่ามันอันตรายมากกว่ายาเสพติดที่ผิดกฎหมายได้แล้วหรือยัง???


ไม่ว่าจะผิดกฎหมายหรือไม่ผิด หากขึ้นชื่อว่ายาเสพติดแล้วก็อันตรายด้วยกันแทบทั้งสิ้น ทางที่ดี อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันเลยน่าจะดีที่สุด ในวันต่อต้านยาเสพติดโลกนี้ หยุดเถอะคะ หยุดทำร้ายตนเอง คนรอบข้างและคนที่คุณรักก่อนจะสายเกินไป


 


 


เรื่องโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Team content www.thaihealth.or.th


 

Shares:
QR Code :
QR Code