ทีมสุขภาพจัดวิ่งต้านบุหรี่-ใช้เพลงสื่อกลางกระตุ้นรากหญ้า
“พิทักษ์สิทธิตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่”(The WHO Framework Convention on Tobacco Control) คำขวัญเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลกปี 2554 ซึ่งตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี
“ไทย” ถือเป็นประเทศที่มีการรณรงค์ให้เป็นประเทศปลอดบุหรี่ โดยเห็นได้จากกฎหมายที่มีการประกาศห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะและพื้นที่อื่นๆ อีกมากมาย แต่เชื่อว่าก็ยังคงมีคนจำนวนหนึ่งที่ยังหันหน้าพึ่งพาบุหรี่เป็นเพื่อนในยามเหงา ยามเบื่อหน่ายและทุกข์ใจ และต้องการการผ่อนคลาย หรือด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม
ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่ทำงานด้านสุขภาพ อย่างเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จับมือกับกระทรวงสาธารณสุข ร่วมจัดโครงการ “ทีมสุขภาพร่วมใจ เดิน-วิ่ง ขจัดภัยบุหรี่ ครั้งที่ 7” จัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพเป็นประจำทุกปีเพื่อรณรงค์เนื่องในโอกาสวันงดสูบบุหรี่โลก
โดย ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพฯ บอกว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์ดังกล่าว ต้องการกระตุ้นให้สังคมเห็นถึงความสำคัญของการเลิกสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพ โดยในปีนี้จัดเป็นปีที่ 7 ซึ่งจะมีการแข่งขันวิ่งในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2554 ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี ขณะนี้ไทยถือเป็นประเทศที่มีการรณรงค์ให้ปลอดบุหรี่ได้อย่างดีมากในระดับต้นๆ ของโลก ขณะเดียวกันจากผลการสำรวจพบว่าประชากรไทยสูบบุหรี่ประมาณ 12 ล้านคน รวมทั้งนักสูบหน้าใหม่ที่มีอายุลดลงเรื่อยๆ ขณะที่บุหรี่เองก็เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดโรคภัยต่างๆ ขณะที่เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพฯ ที่มีเครือข่ายหลากหลายพื้นที่ ทั้งศิลปิน ดารา นักแสดง ก็จะทำหน้าที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงส่งผ่านไปยังประชาชนให้เห็นและตระหนักถึงความสำคัญของการลดละเลิกบุหรี่ เพื่อลดการเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพไปกับบุหรี่
“นักสูบหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ อายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และยังมีปัญหาเรื่องของบุหรี่มือสอง ที่คนไม่ได้สูบก็ได้รับควันพิษจากบุหรี่เช่นกัน จากการสอบถามหลายๆ คนที่ป่วยเป็นมะเร็งปอด พบว่าคนที่บ้าน ญาติก็มีผู้สูบบุหรี่ ถือว่าส่งผลถึงกันในครอบครัว และครอบครัวก็ถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะช่วยลดละเลิกบุหรี่ได้อย่างมาก โดยเฉพาะลูกที่เตือนพ่อ เป็นต้น” ศ.พญ.สมศรีกล่าว
นอกจากกิจกรรมแข่งขันวิ่งแล้ว ยังมีการจัดประกวดขับร้องเพลงสร้างสรรค์ประเภทเพลงลูกทุ่งชิงแชมป์ประเทศไทยเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ครั้งที่ 1 อีกด้วย แต่เชื่อว่าหลายคนอาจคิดว่าเหตุใดถึงใช้การจัดประกวดร้องเพลงมาเป็นสื่อกลางในการรณรงค์เรื่องของการลดละเลิกบุหรี่ แล้วมันจะได้ผลจริงหรือ?
เรื่องนี้ ศ.พญ.สมศรี กล่าวว่า การประกวดขับร้องเพลงสร้างสรรค์ในครั้งนี้จะเป็นรอบชิงชนะเลิศ มีผู้เข้าแข่งขันที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี จำนวนกว่า 80 คนเข้ารับการอบรมเรื่องพิษภัยของบุหรี่ วิธีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เรื่องโทษของบุหรี่และการจัดทำกิจกรรมกลุ่ม เพื่อบอกต่อเรื่องราวของพิษภัยของบุหรี่ไปยังเหล่าบรรดาสิงห์อมควันทั้งหลาย ซึ่งถือเป็นการนำผู้เข้าแข่งขันมาร่วมเป็นสื่อกลางเพื่อสื่อสารที่เข้าถึงระดับรากหญ้าได้ดีทีเดียว โดยผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดได้รับการอบรมไปแล้วเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นจะคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 คนเพื่อนำไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศต่อไป
ทั้งนี้การประกวดขับร้องเพลงสร้างสรรค์ประเภทเพลงลูกทุ่งชิงแชมป์ประเทศไทย เพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ครั้งที่ 1 รอบชิงชนะเลิศ จะมีขึ้นในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 13.30 น.
ส่วนเหล่าบรรดานักวิ่งทั้งหลายที่สนใจ จะมาร่วมสตาร์ทกันในยามเช้าตรู่ สามารถสมัครร่วมแข่งขันวิ่งได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่สำนักงานเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพฯ อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี แพทยสมาคมฯ ซอยศูนย์วิจัย หรือดาวน์โหลดใบสมัคร และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.runningthailand.net โดยแบ่งการแข่งขันเป็นดังนี้ 1.มินิมาราธอน 10.5 กม. 2.วิ่ง 5 กม. ประเภทครอบครัว 2 คน และครอบครัว 3 หรือ 4 คน และ 3.เดินเพื่อสุขภาพ 3 กม. ประเภทบุคคลและครอบครัว
และไม่ว่าหน่วยงานต่างๆ จะร่วมรณรงค์ให้เกิดการตระหนักถึงพิษภัยบุหรี่ด้วยวิธีใดก็ตาม หากแต่ผู้รับสารผ่านสื่อต่างๆ เหล่านี้ยังคงวางเฉยกับปัญหา ก็เรียกได้ว่า “ไร้ประโยชน์” หวังว่าสิ่งเล็กๆ เหล่านี้คงจะเป็นตัวกระตุ้นเตือนให้กับใครหลายคนที่ยังตกเป็นทาสของสารเสพติดมวนขาวนี้อยู่นั่นเอง
เรื่องโดย : สุนันทา สุขสุมิตร TEAM CONTENT WWW.THAIHEALTH.OR.TH