สสส. เดินหน้ารณรงค์มหา’ลัย สีขาว
ผุดสื่อแนวใหม่ หวังลดสิงห์อมควันวัยเยาว์
ศ.นพ.ประกิต เผยสถิติล่าสุดคนไทยสูบบุหรี่ 2.1 ล้านคน อันดับแรกต้องแก้ที่วัยรุ่น ด้านบ.วิทยพัฒน์ นำโครงการเด็ดหนังสือเรียนแนวใหม่รณรงค์มหาวิทยาลัยปลอดบุหรี่
(15 ม.ค) มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับ บริษัท วิทยพัฒน์ จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการด้านสื่อประชาสัมพันธ์แนวใหม่เพื่อการรณรงค์ให้มหาวิทยาลัยเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย โดยจะใช้สื่อแนวใหม่เป็นตัวเจาะเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นโดยตรง ณ ห้องรัชดา 1 โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่มีเป้าหมายที่จะรณรงค์ให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศเป็นมหาวิทยาลัยสีขาวคือเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย และจะเพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัยสีขาวอีกหลายแห่งโดยคาดว่าในอนาคตมหาวิทยาลัยทั่วประเทศน่าจะเป็นมหาวิทยาลัยสีขาวที่ปลอดบุหรี่ได้สำเร็จ ซึ่งบริษัทวิทยพัฒน์ได้เข้าร่วมรณรงค์โดยใช้พื้นที่ในตำราเป็นสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อที่จะให้การรณรงค์บรรลุเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น
“ปัจจุบันสถานการณ์ผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทยมีผู้สูบบุหรี่ทั้งสิ้น 9.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 18.5 แบ่งเป็นชายร้อยละ 36.5 และหญิงร้อยละ 1.6 สำหรับ สถานการณ์ผู้สูบบุหรี่ในอายุ 19-24 ปี ปัจจุบันมีผู้สูบบุหรี่ทั้งสิ้นประมาณ 2.1 ล้านคน แบ่งเป็นชาย 2.0 ล้านคน และหญิง 56,119 คน” ศ.นพ.ประกิต กล่าว
นายสาธิต อุรุวงศ์วณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิทยพัฒน์ จำกัด กล่าวว่า ตำราเรียนนับเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ที่ได้ผลตรงกลุ่มเป้าหมายและมีอายุยาวนาน แต่ตำราเรียนถูกมองข้าม ไม่ได้นำมาใช้เพื่อผลด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในหัวข้อที่เหมาะสม และในการร่วมมือกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ถือเป็นความร่วมมือที่เป็นโครงการนำร่องให้แก่องค์กรสาธารณะที่ไม่หวังผลกำไรและต้องการใช้พื้นที่ประชาสัมพันธ์
“อายุการใช้งานปกติของตำราก็คือหนึ่งภาคการศึกษา ซึ่งกินเวลานานประมาณ 3 เดือน ใน 1 สัปดาห์ต้องเปิดใช้หลายครั้ง ดังนั้นหากมีสื่อประชาสัมพันธ์ที่อยู่ในตำราเรียน ก็เท่ากับว่าสื่อมีอายุการใช้งานนานขึ้นอีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำแก่ผู้อ่านอย่างสม่ำเสมอ”นายสาธิต กล่าว
นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กฎหมายการห้ามสูบบุหรี่ในมหาวิทยาลัยได้ไว้ใน ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 18 กำหนดให้มหาวิทยาลัยเป็นเขตปลอดบุหรี่ ยกเว้นที่ที่จัดไว้ให้เป็นที่สูบบุหรี่หรืออาจห้ามสูบบุหรี่ในมหาวิทยาลัยทั้งหมด เพื่อเป็นการคุ้มครองสุขภาพของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ กรมควบคุมโรคจึงสนับสนุนการรณรงค์ให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายเขตปลอดบุหรี่โดยกรมควบคุมโรคจะเริ่มติดตามการบังคับใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย
เรื่องโดย : นางสาว มณีรัตณ แช่มมณี team content www.thaihealth.or.th
update : 22-01-52
.