สสส.ประกาศเจตนารมณ์ แก้ปัญหาเด็กติดเค็ม

ที่มา :  สยามรัฐ


ภาพประกอบจาก สสส.


สสส.ประกาศเจตนารมณ์ แก้ปัญหาเด็กติดเค็ม thaihealth


คนไทยกว่า 20 ล้านคน ป่วยเป็นโรคที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมติดเค็ม เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด และโรคไต โดยในแต่ละปีมีคนไทยล้างไตเพิ่มขึ้นถึง 20,000 คน ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากพฤติกรรมติดเค็มสูงถึง 98,976 ล้านบาท/ปี


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)เครือข่ายลดการบริโภคเค็ม สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยชมรมโรคไตเด็ก กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงรวมพลังรณรงค์สร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นในประชาชนคนไทยทั้งประเทศ


สสส.ประกาศเจตนารมณ์ แก้ปัญหาเด็กติดเค็ม thaihealth


พ.อ.นพ.อดิสรณ์ ลำเพาพงศ์ คณะกรรมการบริหารสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย และแพทย์โรคไตในเด็ก กล่าวถึงวิกฤติปัญหาโรคไต เมื่อคนไทยมีพฤติกรรมติดเค็มตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งข้อมูลทั่วโลกพบว่า มีผู้ป่วยโรคไต 850 ล้านคน เสียชีวิตเป็นอันดับ6 ของการเสียชีวิตของประชากรโลกโดยคนไทย 1 ใน 3 ป่วยเป็นโรคที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมติดเค็ม ซึ่งกว่าแสนคนต้องเข้ารับการฟอกเลือดและล้างไตทางช่องท้อง สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไตวายเรื้อรังเริ่มต้นมาจากโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงทั้งนี้มาจากการบริโภคเค็มมาเป็นเวลานาน


"โรคไตเป็นได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ จึงต้องสังเกตหากมีอาการบวม หากตรวจพบความดันโลหิตสูง ปัสสาวะเป็นฟอง สีเข้มมีเลือดปนหรือสีชา ควรไปพบหมอเด็กเพื่อรับการประเมินเบื้องต้นถ้าเทียบจากอดีตพบว่า เด็กเป็นโรคไตเพิ่มขึ้น และถ้าติดรสเค็มมาตั้งแต่เด็ก มีการบริโภคสะสม เมื่อโตขึ้นจึงเป็นโรคความดันโลหิตสูงทั้งยังมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น กระดูกพรุน โรคอ้วน ตามมาอีกด้วย"พ.อ.นพ.อดิสรณ์  กล่าว


สสส.ประกาศเจตนารมณ์ แก้ปัญหาเด็กติดเค็ม thaihealth


จึงเป็นที่มาของการประกาศเจตนารมณ์ แก้ปัญหาเด็กติดเค็มโดย นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า จากสถานการณ์ของโรคไต ทำให้ต้องรณรงค์ลดการบริโภคเค็มลงร้อยละ 30 ในปี 2568 จะช่วยในเรื่องของการลดงบประมาณในการรักษา ลดผู้เสียชีวิต และนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี จึงต้องประกาศเจตนารมณ์ในการช่วยกันลดการบริโภคเกลือและโซเดียม โดยเฉพาะการปกป้องเด็กและเยาวชนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในอนาคต


สสส.ประกาศเจตนารมณ์ แก้ปัญหาเด็กติดเค็ม thaihealth


ด้านดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส.กล่าวถึงพฤติกรรมเด็กติดเค็มและการดูแลเอาใจใส่ของครอบครัวต่อสุขภาพเด็ก ว่าสถานการณ์การบริโภคเค็มไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยที่มีปัญหา จะเห็นได้ว่าหลายประเทศมีเด็ก90% บริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง ซึ่งมาจากอาหารแปรรูป ขนมกรุบกรอบ ขบเคี้ยว มาตรการที่สำคัญ คือการให้ความรู้เด็ก ผู้ปกครองซึ่งอาจจะไม่เพียงพอ ต้องอาศัยการกำหนดนโยบายของภาครัฐควบคุมกำกับนอกจากนี้กฎกติกาภายในบ้านก็สำคัญ


"สสส. อยากส่งเสริมให้ทุกๆ คนสุขภาพดี โดยมีความเป็นไปได้สูงในการใช้มาตรการภาษีมาหนุนเสริมโดยตั้งเป้าให้บริโภคเค็มลดลง 10% จะประหยัดทั้งเงิน และรักษาสุขภาพนี่เป็นสัญญาณที่ดีที่จะขับเคลื่อนการลดการบริโภคเค็มของประเทศไทย" ดร.นพ.ไพโรจน์  กล่าว


สสส.ประกาศเจตนารมณ์ แก้ปัญหาเด็กติดเค็ม thaihealth


ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดการบริโภคเค็มและคณะทำงานการจัดงานวันไตโลก เปิดเผยเพิ่มเติมว่า คนนิยมบริโภคเค็ม ปัญหาคือ ยอดขายดีมากขึ้นอุตสาหกรรมได้ประโยชน์นอกจากขอความร่วมมือจากผู้ปกครองในการคัดเลือกอาหารแล้วยังขอความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรมให้ผลิตสูตรโซเดียมต่ำ ซึ่งหากปฏิบัติตามผลิตภัณฑ์จะได้สัญลักษณ์ฉลากทางเลือกสุขภาพ มาตรการขับเคลื่อนมาตรการด้านราคา ให้ได้ของคุณภาพและราคาที่ไม่สูง รวมถึงมาตรการภาษี เค็มมาก ต้องจ่ายภาษีมากซึ่งนับว่าอุตสาหกรรมลดต้นทุนการผลิต สุขภาพของประชาชนในระยะยาวก็ดีขึ้น


สสส.ประกาศเจตนารมณ์ แก้ปัญหาเด็กติดเค็ม thaihealth


อีกท่าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกล่าวถึงการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ป่วยโรคไต และการลดรายจ่ายทางสุขภาพ ว่าทุกคนเกิดมาต้องการความเข้มแข็งและสุขภาพดี สถิติสะท้อนให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้สะสมในสังคมผู้บริโภค ต้องมีการเรียนรู้และเท่าทันสปสช. สนับสนุนโดยการดำเนินงานตามโมเดลในระดับตำบล กว่า 7,000 ตำบลทั่วประเทศ ซึ่งมีกองทุนตำบลกระจายทั่วประเทศ  โดยจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมรณรงค์ให้ความรู้ในโรงเรียนอาหารปลอดภัย เป็นต้น รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณให้กับหน่วยบริการต่างๆ ในการป้องกันก่อนเกิดโรค แต่หากเกิดแล้วต้องดูแลตามความเหมาะสมเพื่อให้สุขภาพชีวิตดีขึ้น


โรคไตเป็นได้ทุกช่วงวัย องค์การอนามัยโลกจึงกำหนดให้วันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนมีนาคม เป็นวันไตโลก และประเทศไทยได้จัดกิจกรรมวันไตโลก ประจำปี 2562 ขึ้น ในวันอาทิตย์ที่17 มีนาคม 2562 ที่ลานเอเทรียม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนบริโภคเค็มในปริมาณที่พอเหมาะและร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กให้ห่างไกลจากภาวะไตเสื่อมสู่คุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต

Shares:
QR Code :
QR Code