ร้อนนี้กินอย่างไร เย็นทั้งกาย-สุขทั้งใจ

         /data/content/19773/cms/cdefgmqw1348.jpg

           อำลาสายลมหนาว ต้อนรับแสงแดดอุ่น ร้อนนี้จะกินอย่างไร ให้เย็นทั้งกาย สุขทั้งใจ

           อ.แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการบำบัดและผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ข้อมูลว่า เมื่อฤดูร้อนมาถึง สิ่งที่แฝงมากับอากาศก็คือ เชื้อโรคสารพัดชนิดที่สามารถเติบโตได้ดีในภาวะที่อากาศอบอ้าว จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการระบาดของทั้งโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินอาหาร

           โดยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารที่พบบ่อย อย่าง อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย และบิด นั้นมีสาเหตุจากการกินอาหารปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ทั้งจากอาหารที่ทำไว้นานแล้ว และอาหารที่ไม่ได้เก็บแช่ไว้ในตู้เย็น  ซึ่งหลังจากรับประทานอาหารปนเปื้อนเชื้อ จะปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หากมีถ่ายอุจจาระมาก ก็จะเกิดอาการขาดน้ำได้ด้วย

         /data/content/19773/cms/hikmnpsz1678.jpg ข้อควรระวังในการเลือกรับประทานอาหารช่วงหน้าร้อน

          นักโภชนาการคนเก่งบอกว่า อาหารที่ไม่แนะนำให้รับประทานในช่วงหน้าร้อน คืออาหารจำพวกสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบเนื้อต่างๆ รวมถึงอาหารมันและทอด แกงที่ใส่กะทิ แต่ควรกินอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ เพื่อป้องกันการรับเชื้อโรคโดยไม่จำเป็น

          นอกจากนี้ ยังควรเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์และไขมัน ซึ่งเป็นอาหารย่อยยาก เพราะหากทางเดินอาหารทำงานหนัก จะเกิดความร้อนขึ้นในร่างกาย อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ไขมัน รวมถึงอาหารทอด จึงเป็นอาหารที่รับประทานแล้วจะทำให้เกิดอาการแน่นท้อง อึดอัด ย่อยยาก ในหน้าร้อนนี้ จึง ควรเน้นรับประทานผักและผลไม้เป็นหลักมากกว่าอาหารจำพวกแป้งและเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้พลังงานมากเกินความจำเป็นหากรับประทานมากเกินไป

          เมนูแนะนำในหน้าร้อน

       /data/content/19773/cms/dikltxyz1478.jpg   มะระตุ๋น หรือแกงจืดมะระ เป็นเมนูร้อนๆ ที่ดับร้อนได้ดี เพราะมะระเป็นผักที่มีไขมันต่ำ ย่อยง่าย มีฤทธิ์ทางยา ในเรื่องของการระบายความร้อนภายในร่างกาย เป็นเมนูอับดับหนึ่งที่ดับร้อนได้ดีที่สุดในบรรดาอาหาร

          อันดับต่อมา คือผัดบวบ ก็เป็นอีกเมนูแนะนำ แต่ต้องระวังในเรื่องของการผัดที่ไม่ควรใส่น้ำมันมากเกินไป ในอาหารทั้งสองชนิดนี้มีน้ำและผักเป็นส่วนประกอบหลัก จะช่วยแก้กระหายและอาการร้อนในได้เป็นอย่างดี

          เครื่องดื่มไทยๆ คลายร้อนได้ดี

         /data/content/19773/cms/cjknoqsuy269.jpg น้ำตะไคร้ ช่วยขับเหงื่อ ,น้ำมะนาว ช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า และขับเสมหะ ,น้ำมะตูม เป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มในหน้าร้อนมาแต่โบราณ เพราะนอกจากจะมีกลิ่นหอมชื่นใจ ยังช่วยแก้กระหายได้ด้วย

          นอกจากนี้ หากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม การดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการในหน้าร้อน คือวันละประมาณ 1.5-2 ลิตร

          อ.แววตา ย้ำว่า ในหน้าร้อน ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องดูแลเป็นพิเศษเนื่องจาก มีประสาทการรับรู้ที่ช้ากว่าหนุ่มสาว ทำให้การรับรู้ในเรื่องของการกระหายน้ำช้าตามไปด้วย บุตรหลานควรดุแลเรื่องการดื่มน้ำ หรืออุณภูมิสถานที่อยู่ของท่านให้มีอากาศที่ถ่ายเท เพื่อความปลอดภัย

          แต่ไม่ว่าจะหน้าร้อน หรือหน้าหนาว หากเตรียมร่างกายของเราให้พร้อม ย่อมสดใสสุขภาพดีได้ทั้งกายใจ

 

เรื่องโดย : กิดานัล กังแฮ Team Content www.thaihealth.or.th

 


Shares:
QR Code :
QR Code