บ่มเพาะเกษตรกรตัวน้อยสร้างอาชีพเกษตรอินทรีย์

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


บ่มเพาะเกษตรกรตัวน้อยสร้างอาชีพเกษตรอินทรีย์ thaihealth


มูลนิธิสังคมสุขใจ บ่มเพาะเกษตรกรตัวน้อยต่อเนื่องปีที่ 4 ให้ความรู้คู่คุณธรรมตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เชิญชม-ช็อป-ชิมผลผลิตเกษตรอินทรีย์จากโรงเรียนในเครือข่ายสามพรานโมเดล ชูแนวคิดอาหารปลอดภัยพาชุมชนไทยยั่งยืน


คงเป็นเรื่องไม่ยากที่จะสนับสนุนให้เด็กๆ ร่วมกันลงมือปลูกผักด้วยตัวเอง เพราะอยู่ในวัยซุกซน ชอบความสนุกสนาน แต่อาจเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่จะปลูกฝังเรื่องเกษตรอินทรีย์เข้าไปในรั้วโรงเรียนเพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนตื่นรู้ถึงพิษภัยของสารเคมีที่ตกค้างในอาหาร


ทว่า "มูลนิธิสังคมสุขใจ" ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถทำเรื่องยากเช่นนี้ให้ประสบความสำเร็จได้ภายใต้โครงการที่มีชื่อว่า "สามพรานโมเดล" ซึ่งมีเป้าหมายเป็นศูนย์รวมการทำเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร ส่งตรงพืชผักผลไม้ปลอดสารพิษจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภคโดยตรงในราคาถูก เกิดประโยชน์ทั้งในแง่เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม


ไม่เพียงเฉพาะเกษตรกรเท่านั้น มูลนิธิสังคมสุขใจยังได้จัดทำกิจกรรมการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียนมาตั้งแต่ปี 2557 โดยพิจารณาคัดเลือกโรงเรียนมีความตื่นตัวและเห็นความสำคัญของเกษตรอินทรีย์มาเข้าร่วมงานสำคัญประจำปี นั่นก็คือ "วันสังคมสุขใจ" ซึ่งในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 4 โดยมีโรงเรียน 10 แห่งในพื้นที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เข้าร่วมงานเพื่อนำเสนอผลงานและแสดงผลิตภัณฑ์เด่นๆ ของแต่ละโรงเรียนที่มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป


อย่างเช่น "โรงเรียนบ้านคลองใหม่" ตำบลคลองใหม่ อำเภอสามพราน ซึ่งบ่มเพาะให้เด็กนักเรียนได้มีส่วนร่วมอย่างจริงจังทั้งการเรียนรู้ลงมือปฏิบัติในแปลงผักสวนครัว การนำผลผลิตที่ได้ไปจำหน่ายในตลาดสุขใจที่สวนสามพรานเพื่อฝึกทักษะชีวิตให้เป็นนักธุรกิจตั้งแต่วัยเยาว์ สามารถคิดเป็น ทำได้และขายเอง ตลอดจนนำไปปรับใช้ในชีวิตจริงที่บ้านพ่อแม่ของพวกเขาเอง


ครูศุภากร จันทร์สุข หรือครูแปร ครูชำนาญการโรงเรียนบ้านคลองใหม่ ในฐานะแม่งานคนสำคัญของโรงเรียน กล่าวว่า ด้วยข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ของโรงเรียนมีไม่มากพอที่จะปลูกพืชผักได้มากนัก จึงต้องหันมาเน้นเรื่องการแปรรูปผลผลิตการเกษตร โดยเฉพาะการแปรรูปกล้วยน้ำว้าให้เป็นแป้งสำหรับทำอาหารชนิดต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่ากล้วยที่เราปลูกหลายชนิดทั้งกล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ และกล้วยหอมปลอดจากสารเคมีเช่นเดียวกับผักอื่นๆ ที่อยู่ในรั้วโรงเรียน


ครูแปรบอกว่า สำหรับงานวันสังคมสุขใจในปีนี้ ทางโรงเรียนของเราได้เตรียมนำเสนออาหารทั้งคาวและหวานที่ทำจากแป้งกล้วยน้ำว้ามาให้ได้ชิมกัน ที่น่าสนใจคือ "ซาเคบะ" เมนูที่เพิ่งคิดค้นใหม่และตั้งชื่อขึ้นมาเอง มีหน้าตาและรส  ชาติคล้ายๆ ซาลาเปากับหมั่นโถว คือ กินแบบมีไส้ข้างในหรือไม่มีไส้ก็อร่อย ตัวไส้ทำจากหมูบดใส่คะน้าเม็กซิกันและไข่เค็ม กินคู่กับซอสที่ทำจากจากกล้วยห่ามๆ ผสมกับสับปะรดและพริกเพิ่มรสชาติเปรี้ยวและเผ็ด เพิ่มความอร่อยกลมกล่อม รับรองได้ชิมแล้วจะติดใจ


นอกจากซาเคบะแล้วก็ยังมีกล้วยหยี คุกกี้ โดนัท และทองม้วนงาดำที่ทำจากแป้งกล้วย อีกทั้งมีเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร เช่น จตุผลาธิกะ ดื่มแล้วรับรองว่าดีต่อสุขภาพแน่นอน เพราะช่วยปรับธาตุทั้ง 4 ลดไขมันพอกตับ และยังมีวิตามินซีสูง หรือจะลองชิมของหวาน-เย็นอย่างไอศกรีมเชอร์เบทผลไม้ปั่นก็อร่อย


ส่วนของคาวก็มีเส้นเจียมบะที่มีลักษณะเหมือนเกี้ยมอี๋ แต่ใช้แป้งกล้วยแทน กินคู่กับแกงหยวกกล้วยอร่อยเข้ากันอย่าบอกใคร แถมได้คุณค่าทางโภชนาการ ดีกว่าปล่อยให้เด็กๆ กินแต่ขนมกรุบกรอบ หากใครอยากรู้วิธีการทำแป้งกล้วยก็ต้องมา


งานนี้จะได้รู้เคล็ดลับ ถ้าใครมีหัวธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดได้เลย เพราะแป้งกล้วยนำไปทำอาหารคาวหวานได้สารพัดชนิด


บ่มเพาะเกษตรกรตัวน้อยสร้างอาชีพเกษตรอินทรีย์ thaihealth


ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกอย่างที่ทางครูแปร คณาจารย์และเด็กโรงเรียนบ้านคลองใหม่นำเสนอก็คือ ยาสีฟัน "ศรีสยบ" ยาสีฟันสมุนไพรสูตรโบราณที่มีส่วนประกอบสำคัญ เช่น กิ่งข่อย กิ่งมะขามเทศ ลูกพิกุลสุก กานพลู และผงถ่านชาร์โคล เป็นต้น ซึ่งสามารถนำสูตรนี้ไปทำยาสีฟันใช้เองได้เลย ช่วยทำความสะอาดและสยบกลิ่นปากได้ดี เจ้าของสูตรมีชื่อว่า "หมอศรี" จึงตั้งชื่อว่า "ศรีสยบ" ปกติคนที่จะเรียนต้องเสียเงินเข้าคอร์ส แต่สำหรับงานสังคมสุขใจปีนี้สอนให้ทำฟรี ซึ่งไม่ควรพลาดเลยทีเดียว


ครูแปรกล่าวว่า การที่ครูและนักเรียนได้เข้าร่วมโครงการเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียนทำให้ได้รับความรู้ในแง่หลักวิชาการมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงไม่ใช้สารเคมีอย่างเดียว แต่ทำอย่างไรต้องให้ผู้บริโภคได้กินอาหารปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ อีกทั้งเรายังได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ต่างๆ ของสามพรานโมเดล ได้พาเด็กๆ ไปทำกิจกรรม เช่น ทำน้ำจุลินทรีย์นำไปใช้ที่โรงเรียนและบ้านของตนเอง ช่วยให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ มีความกล้าแสดงออก อย่างเช่น การขายสินค้าที่ตลาด และยังปลูกฝังเรื่องจิตอาสา ความเสียสละ เพราะต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งมาทำงานครั้งนี้


"เราเน้นให้เด็กมีทักษะชีวิตและทักษะอาชีพที่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง เงื่อนไขที่สำคัญของกิจกรรมนี้คือให้ความรู้คู่คุณธรรมตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำไปถ่ายทอดหรือบอกต่อกับพ่อแม่ โครงการนี้ให้ต้นทุนชีวิตนักเรียน ได้รู้จักการทำงานร่วมกันเป็นทีม มีความเสียสละ สอนให้คิดเป็น ทำได้ และต้องขายเอง เป็นโมเดลที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี" ครูแปรกล่าวสรุป


ด.ช.รัฐภูมิ คุ้มสวัสดิ์ หรือน้องฟิล์ม นักเรียนชั้น  ม.6 โรงเรียนบ้านคลองใหม่ เป็นนักเรียนอีกคนหนึ่งที่สนใจเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ เพราะทางบ้านทำสวนฝรั่ง แต่ยังใช้สารเคมี ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนใจให้พ่อแม่หันมาทำเกษตรอินทรีย์ได้ แต่อย่างน้อยน้องฟิล์มก็ได้พื้นที่แปลงเล็กๆ สำหรับทำเกษตรอินทรีย์ เช่น ปลูกพริกขี้หนู ถั่วฝักยาวและผักต่างๆ ซึ่งเอาไว้กินที่บ้าน และในอนาคตหากมีเงินทุนก็จะทำฟาร์มเพาะเห็ดอีกด้วย


ขณะที่ ด.ช.ขอบฟ้า ผิวเกลี้ยง หรือน้องเปรม นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านคลองใหม่ แม้ยังเล็กนักแต่เขามีความสุขกับสิ่งที่ครูสอน โดยเฉพาะเวลาที่จะได้ลงแปลงเกษตร อยากจะไปดูแลผักที่ปลูกไว้โดยไม่ต้องใส่สารเคมี ไม่ทำให้เจ็บป่วย โดยเข้าร่วมชมรมเกษตรกรตัวน้อยไร้สารที่โรงเรียนจัดตั้งขึ้น


น้องเปรมบอกว่า ชอบกิจกรรมครั้งนี้เพราะได้ทั้งความสนุกและทำตัวให้เป็นประโยชน์ช่วยงานของโรงเรียน คิดว่ามีความกล้าพูดและแสดงออกมากขึ้น โดยเฉพาะได้มาขายผลผลิตต่างๆ ในงานสังคมสุขใจ ก็อยากเชิญชวนผู้สนใจมาร่วมชมสินค้าของพวกเรากันมากๆ


สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเรียนรู้โมเดลการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียน และสนับสนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ของหนูน้อยวัยซน พร้อมสัมผัสกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ขอเชิญร่วมเก็บเกี่ยวความรู้ ชม-ช็อป-ชิม ในงานสังคมสุขใจ ภายใต้แนวคิด "อาหารปลอดภัยพาชุมชนไทยยั่งยืน" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2560 เข้างานฟรี…!!! ที่สวนสามพราน จ.นครปฐม

Shares:
QR Code :
QR Code