คุยกับผู้จัดการ สสส. (เดือนสิงหาคม 2567)

สวัสดีครับเพื่อนร่วมสร้างสุขทุกคน

           ถ้าคุณอยากเปลี่ยนตัวเอง ช่วงเวลา 90 วัน ของการเข้าพรรษาเลิกเหล้า ถือเป็นจุดสตาร์ตที่ สำคัญ

           เป็นเวลา 22 ปีแล้ว ที่ สสส. ชวนคนในสังคมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อตัวเองและครอบครัว ด้วยแคมเปญ “งดเหล้าเข้าพรรษา” ซึ่งแต่ละปีมีคนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ และตอบรับแคมเปญด้วยความเข้าใจ

           ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) พบว่า ในปี 2566 มีผู้เปลี่ยนพฤติกรรมลด ละ เลิกเหล้าในช่วงเข้าพรรษา 10.2 ล้านคน จากจำนวนผู้ที่ดื่มทั้งหมด 24.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 มากถึง 7.7 แสนคน สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้ที่เข้าร่วมงดหรือลดการดื่ม 66.3% ระบุว่าได้รับผลดีจากการลด ละ เลิกดื่มในช่วงเข้าพรรษา

           ประเด็นหลัก ๆ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดคือ สุขภาพร่างกายดีขึ้น สุขภาพจิตใจดีขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งมีการคิดค่าเฉลี่ยไว้ว่า การงดเหล้าเข้าพรรษาจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ยคนละ 1,506.97 บาท รวมทั้งประเทศประหยัดได้ราว 4.2 พันล้านบาท

           การรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ สสส. ใช้แนวคิดขับเคลื่อนงานที่เชื่อมโยงสู่มิติทางสุขภาวะ Healthy Sobriety สังคมสุขปลอดเหล้า เหตุใดจึงต้องสุขปลอดเหล้า ก็เพราะเมื่อดื่มเหล้าแล้วกลับทำให้สุขยากเพราะเหล้าไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารแห่งความสุขเทียม ทำให้ร่างกายชาชินกับสุขจากสารภายนอก สารแห่งความสุขจากภายในจึงสร้างน้อยลง จนต้องพึ่งพาแต่เหล้าเพื่อสร้างสารแห่งความสุข

           ไม่ดื่มก็ไม่สุข แต่เมื่อดื่มมากขึ้น ก็ทำให้ไม่อยากได้ความสุขจากอย่างอื่น เช่น ความสุขจากความภาคภูมิใจ การทำความดี ทำเพื่อคนอื่น ทำให้หมกมุ่น แต่ความสุขเทียมจากเหล้า เมื่อดื่มหนักส่งผลให้เสียการเรียน เสียหน้าที่การงาน สุดท้ายเกิดโรคซึมเศร้า ทั้งนี้ ความสุขที่แท้จริง จึงเป็นสุขที่ไม่ต้องพึ่งพาเหล้า หรือสารใด ๆ จากภายนอก ถือเป็นความสุขภายในที่แท้จริง

           แคมเปญงดเหล้าเข้าพรรษา ถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับบริบทในสังคมมาอยู่เสมอ เพราะการดื่มนั้น เป็นเรื่องอัตวิสัยก็จริง แต่การดื่มสามารถสร้างผลกระทบกับสุขภาพ ครอบครัว และสังคม ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ความพยายามในการลด ละ เลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี สสส. จึงมองไปถึงปัญหาที่หยั่งรากลึกด้วยการชวนให้ผู้คนหันมาเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเองและคนที่รัก

           “ฤดูกาลสุขปลอดเหล้า” ในปีนี้ จึงอยากเชิญชวนประชาชนเข้าร่วม เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ คือ เรื่องของสุขภาพ โดยเฉพาะ ตับ ซึ่งตับคนเรานั้น สามารถทนต่อพิษของแอลกอฮอล์ได้แตกต่างกัน ซึ่งหากดื่มมาเป็นเวลานาน ค่าตับก็จะยิ่งพุ่งสูง เพราะตับทำหน้าที่เสมือนเครื่องกรองบำบัดของเสียในร่างกาย ถ้ารับของเสียเข้ามาโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของเสียที่เกินกว่าที่ตับทำลายได้ก็จะย้อนมาทำลายตับ และร่างกายเรา

           ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา สสส. ได้สนับสนุนเรื่องของการตรวจค่าเอนไซม์ตับ เพื่อจะให้เป็นสิ่งกระตุ้นเตือนให้ประชาชนเลิกดื่มอย่างจริงจังเพราะการปล่อยให้ตับอักเสบ มีรอยรั่ว หรือมีปัญหา หากค่าเอนไซม์ตับสูงเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจมีแนวโน้มเกิดตับแข็งและมะเร็งตับได้ การตรวจเอนไซม์จึงจะนำไปสู่การรู้เท่าทัน และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้

           มาร่วมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนสังคมไปพร้อมกันครับ

Shares:
QR Code :
QR Code