เฝ้าระวัง! ภัยโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริง

กพย. จับมือ 4 หน่วยงานพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวัง “การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกินจริง” ภัยแอบแฝงในยุคการสื่อสารไร้พรหมแดน พบธุรกิจอาหาร ทุ่มงบโฆษณาสูง 1.7 หมื่นล้านบาท จ่อจัดการโฆษณาในเคเบิล วิทยุท้องถิ่นกว่า 7,700 แห่งทั่วไทย แฉเหยื่อโฆษณาตาย หลังถูกหลงเชื่อโฆษณาน้ำเอนไซม์ หลอกรักษาโรคไตวายได้

 
 

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 ที่โรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ แผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ชมรมเภสัชชนบท มีเดีย มอนิเตอร์ และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังในระดับพื้นที่และจัดการปัญหาโฆษณายา อาหาร และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายทางวิทยุกระจายเสียง สื่อโทรทัศน์ และทาง อินเตอร์เน็ต

โดยผศ.ภญ.ดร.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) ระบุว่า ว่าในช่วงปี 2549-2552 การโฆษณาอาหาร มีมูลค่าสูงถึง 1.7 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยสูงกว่าปี 2539 ถึง 12 เท่า โดยเฉพาะมูลค่าการโฆษณาเสริมอาหารเพียงบริษัทเดียวในปี 2545 พบว่า การโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีมูลค่าสูงถึง 821 ล้านบาท และมีการขยายตัวต่อเนื่องเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคผ่านสื่อหลายรูปแบบ นอกจาก เคเบิลดาวเทียมแล้ว ยังมีวิทยุท้องถิ่น มากกว่า 7,700 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ จากการทำงานของชมรมเภสัชชนบทร่วมกับเครือข่ายเภสัชกร พบว่าผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาเกินจริงนั้นมีอยู่จำนวนมาก จึงเป็นการยากที่หน่วยงานรัฐจะดูแลได้หมด จึงต้องทำยุทธศาสตร์พัฒนาคนมาช่วยภาครัฐเฝ้าระวังและพยายามเข้ามาหนุนเสริมให้เกิดการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม

“ปัจจุบันมีหน่วยงานดูแลและเฝ้าระวังการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกินจริงหลายหน่วยงาน เช่น อย. และศูนย์รับเรื่องร้องเรียนภาคประชาชนต่างๆ แต่ยังไม่มีความร่วมมือกันอย่างชัดเจน ต่างคนต่างทำ ดังนั้น ต้องมีการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม จับต้องได้ โดย 5 หน่วยงาน คือ อย. ชมรมเภสัชชนบท กสทช. มีเดีย มอนิเตอร์ และกพย. จึงมาร่วมมือกันจัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังและจัดการปัญหาในระดับพื้นที่” ผศ.ภญ.ดร.นิยดา กล่าว

ภก.ภาณุโชติ ทองยัง ประธานชมรมเภสัชชนบท กล่าวถึงที่มาของแผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังและจัดการปัญหาในระดับพื้นที่ว่า ปัญหาการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริง ต้องใช้วิธีการแก้ปัญหาร่วมกัน ทั้งประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภค อย. กสทช. ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลสื่อ ผู้ประกอบการกระจายเสียงโทรทัศน์และวิทยุ รวมไปถึงบริษัทยา อาหารเสริมต่างๆ โดยการใช้มาตรการทางกฏหมายเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต้องใช้มาตรการด้านจรรยาบรรณ และจริยธรรมด้วย เพื่อให้การจัดการปัญหาโฆษณายา อาหาร และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายทางวิทยุกระจายเสียง สื่อโทรทัศน์ และอินเตอร์เน็ตเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการและรูปแบบการจัดการปัญหาให้แตกต่างจากเดิมที่ใช้วิธีการตามจับโฆษณาที่ผิดกฎหมายเป็นรายๆ ไป

ภก.ภาณุโชติ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการโฆษณาผลิตภัณฑ์น้ำเอนไซม์ในทีวีจานดำ ซึ่งโฆษณาว่า สามารถรักษาโรคมะเร็ง เบาหวาน ความดัน และโรคเรื้อรังอื่นๆ ได้ แต่เมื่อพิจารณาจากส่วนประกอบมีเพียง ผงมะละกอ และผงผลไม้อื่นๆ ไม่มีส่วนประกอบใดที่จะช่วยรักษาโรคได้ตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งถือว่ามีความผิดกฎหมายด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ และเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ที่ระบุว่า ผู้บริโภคมีสิทธิได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ จะไม่หลงผิด ในการซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยไม่เป็นธรรม

ด้านนายพนะชัย พงษ์พัมรัตน์ ผู้ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตจากการหลงชื่อโฆษณาน้ำเอนไซม์ กล่าวว่า พี่ของตนมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน โดยรักษากับโรงพยาบาลมานานแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร จนวันหนึ่งได้ดูโฆษณาเอนไซม์จากทีวีจานดำ บอกว่ารักษามะเร็ง เบาหวาน ความดัน และโรคเรื้อรังอื่นๆ ได้ แรกๆก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ดูทุกวันก็หลงเชื่อจนสุดท้ายก็โทรศัพท์ไปสั่งซื้อ แถมยังมีศูนย์จำหน่ายอยู่ในจังหวัดลพบุรีด้วย พี่ชายเลิกกินยารักษาโรคเบาหวานที่โรงพยาบาลให้ และกินแต่เอนไซม์ที่ซื้อมา หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือนอาการก็ทรุดหนักและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หมอระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าไตวาย ไม่นึกเลยว่าจะมาตายเพราะโดนหลอกแบบนี้ มันเจ็บปวด เอนไซม์ดังกล่าวนี้มีราคาขายกล่องละ 2,500 บาทหนึ่งกล่องมี 50 ซอง ซึ่งเป็นราคาที่แพงมากสำหรับชาวบ้านที่มีอาชีพทำไร่ทำนา แต่สำหรับคนที่เจ็บป่วย มีทางไหนที่รักษาได้ก็อยากจะลอง เป็นการหากินกับคนป่วยที่ไม่มีทางเลือก ราคาแพงเท่าไหรก็ได้ ขอให้หาย

 
 
 
 
ที่มา : แผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) 
 
Shares:
QR Code :
QR Code