เตือนระวังเชื้อดื้อยา “ซุปเปอร์บัค”

ประชุมวิชาการนานาชาติ แก้ปัญหาเชื้อดื้อยา วันที่สองคึกคัก แพทย์เตือน ไทยวิกฤต  ให้จับตาเชื้อดื้อยา “ซุปเปอร์บัค” หวั่นถ้าระบาดหนักเหมือนอินเดีย จะส่งผลกระทบทัวร์สุขภาพและการรักษาพยาบาลของต่างชาติในไทย ด้านเครือข่ายพ่อแม่ ชี้ ลูกวัยรุ่นแห่ซื้อยาแก้สิวอักเสบกินพร่ำเพรื่อ-เพาะเชื้อดื้อยา


เตือนระวังเชื้อดื้อยา


ที่โรงแรมทวินทาวเวอร์ กรุงเทพฯ  ในการประชุมวิชาการระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2 เรื่อง การจัดการปัญหาเชื้อดื้อยา ซึ่งจัดโดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ  แผนงานสร้างกลไกเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์กร ReAct, Uppsala University, Sweden โดยมีตัวแทนนักวิชาการ แพทย์ และเภสัชกร จากหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วม


ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม คณะแพทยศาสตร์  ร.พ.รามาธิบดี ในฐานะเลขาธิการสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาวัยรุ่นไปซื้อยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะมากินเอง เป็นการบ่มเพาะค่านิยมการซื้อยามากินอย่างพร่ำเพรื่อ และเป็นแหล่งเพาะเชื้อดื้อยาในร่างกายตัวเอง  จะเห็นได้จากสถานการณ์เชื้อดื้อยา เช่น “อีโคไล” ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีอยู่ในลำไส้  แต่เมื่อมีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม (เช่น กินยาไม่ครบตามกำหนด กินยาที่ออกฤทธิ์กว้างเกินไป) จะส่งผลให้เชื้อดังกล่าวเกิดการดื้อยา ซึ่งหากถึงขั้นดื้อต่อยา cephalosporins(เซฟาโลสปอริน) ก็ต้องหันไปใช้ยา carbapenems (คาร์บาพีแนม) รักษาแทน หากใช้ยานี้รักษาไปนานๆ จะเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยาตัวใหม่ ที่เรียกว่า “ซุปเปอร์บัค” ซึ่งยังไม่มียาใดที่รักษาได้ โดยขณะนี้ “ซุปเปอร์บัค” ได้แพร่กระจายอยู่ในอินเดีย ส่งผลให้รัฐบาลของประเทศอังกฤษและสวีเดน เตือนไม่ให้ชาวอังกฤษและสวีเดนมารักษาพยาบาลในประเทศอินเดีย เอเชียใต้ และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเกรงว่าจะได้รับเชื้อดื้อยาตัวนี้ 


“ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มมีผู้พบเชื้อ Enterobacteriaceae ที่ดื้อต่อยา คาร์บาพีแนมแล้ว  ซึ่งการดื้อยาตัวนี้เกิดในลำไส้ จึงเป็นเหตุที่อาจก่อปัญหารุนแรงได้ในอนาคต ไม่เฉพาะแต่สุขภาพเท่านั้น อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วย หากมีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวหรือมารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทยแล้วเกิดติดเชื้อเหล่านี้ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและรับการรักษาในประเทศไทย ดังนั้นปัญหาเชื้อดื้อยาในประเทศและภูมิภาคนี้ จึงอยู่ในขั้นวิกฤตที่ต้องร่วมกันเฝ้าระวังและรณรงค์ทั้งในส่วนของบุคลากรทางด้านสุขภาพ และประชาชนทั่วไปอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นทางที่ผู้ป่วยต้องเข้าใจถึงขั้นตอนการรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์  ไม่ใช่จะขอให้แพทย์สั่งยาปฏิชีวนะให้ทันทีเมื่อป่วยเป็นหวัดหรืออาการที่ยังไม่จำเป็น  ซึ่งเป็นการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผล  ทั้งนี้บุคลากรทางด้านสุขภาพก็ต้องตระหนัก และจัดระบบการสั่งใช้ยาอย่างเหมาะสมด้วย” ผศ.นพ.กำธร กล่าว


นางกีรติกา แพงลาด เครือข่ายผู้ปกครอง มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า จากการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเครือข่ายผู้ปกครอง พบประเด็นที่น่าตกใจคือ แต่ละเดือนพ่อแม่ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายให้ลูกสาววัยรุ่นไปใช้ในการรักษาสิว โดยมีเด็กวัยรุ่นจำนวนมากนิยมซื้อยาปฏิชีวนะมากินเมื่อเกิดสิวอักเสบ และเมื่อสิวยุบหายก็หยุดกิน ทั้งที่ยังกินยาไม่ครบชุดการรักษา ซึ่งเป็นพฤติกรรมการใช้ยาที่ไม่ถูกต้อง นำไปสู่การเพาะเชื้อดื้อยา ในขณะเดียวกัน ผู้ปกครองและคณะครูในโรงเรียนจำนวนไม่น้อย ยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง มักคิดว่าเมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยต้องกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการเบื้องต้น ในห้องพยาบาลของโรงเรียนบางแห่งก็มีการจ่ายยาปฏิชีวนะให้เด็กด้วย ซึ่งพ่อแม่เองก็คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ แต่นิยมไปซื้อยามากินเอง ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย  โดยหารู้ไม่ว่า เรื่องเล็กๆ เหล่านี้แหละ ที่เรียกว่า การใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งจะก่อผลร้ายตามมาอย่างใหญ่หลวง
 



ที่มา : สำนักข่าว สสส.

Shares:
QR Code :
QR Code