“มหกรรมกีฬามหามงคล” ปีที่ 8 มุ่งผลักดันเมืองไทยให้เป็นเมืองสุขภาวะ

 

 

สสส.จับมือ กทม. จัดงาน “มหกรรมกีฬามหามงคล” ปีที่ 8 หวังลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพให้ปชช.  ด้วยการออกกำลังกาย มุ่งผลักดันเมืองไทยให้เป็นเมืองสุขภาวะ

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่สวนลุมพินี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ จัดงาน “มหกรรมกีฬามหามงคล 2554 เทิดพระเกียรติปีมหามงคล 84 พรรษา” เพื่อเทิดพระเกียรติปีมหามงคล 84 พรรษา เนื่องในวันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 8 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนรวมกว่า 8,400 คน อาทิ จากลานแอโรบิก 100 แห่งทั่วกทม. นักวิ่งจากชุมชนต่างๆ นักกีฬาจากสวนสาธารณะทั่วกรุง และประชาชนผู้สนใจเข้าออกกำลังกายเพื่อเทิดพระเกียรติครั้งนี้ด้วย

โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้ใช้วันมหามงคลนี้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีด้วยกันร่วมกันสร้างสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ เพื่อกระตุ้นเตือนให้คนไทยหันมาสนใจออกกำลังกาย โดยมุ่งหวังให้คนไทยทุกคนได้ปลูกฝังการรักการออกกำลังกายให้เป็นนิสัย อันจะเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพของประเทศชาติต่อไป

ด้านทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเทิดพระเกียรติปีมหามงคล 84 พรรษา ยังเป็นการส่งเสริมการเคลื่อนไหวร่างกาย กระตุ้นเตือนให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ปรับวิถีชีวิต และให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ตามแบบอย่าง “พระมหากษัตริย์นักกีฬา” ซึ่งความน่าสจใจของงาน อยู่ที่การเสวนาเรื่อง “ร่วมกันมองอนาคตประเทศไทยสู่การเป็นเมืองสุขภาวะ” เพื่อร่วมกันหาแนวทางและผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองสุขภาวะ โดย สสส.เห็นว่าที่ผ่านมาคนไทยต้องแบกรับภาระด้านสุขภาพมากถึงปีละ 3 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นค่ารักษาพยาบาลมากกว่าการส่งเสริมป้องกัน

ทพ.กฤษดากล่าวว่า ดังนั้น สสส.จึงเห็นความสำคัญในเรื่องการป้องกันมากกว่าการรักษา เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพให้กับประชาชน ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้คนไทยหันมาป้องกันสุขภาวะของตัวเอง ด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่จะช่วยผลักดันให้เมืองไทยเป็นเมืองแห่งสุขภาวะที่ยั่งยืนต่อไป แต่ทั้งนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสนับสนุน เพื่อนำไปสู่การร่วมสร้างเมืองไทยให้น่าอยู่ต่อไป

ทพ.กฤษดากล่าวอีกว่า สำหรับงานครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้คำขวัญ “ชวนขยับทั้งประเทศ” จึงมีการออกกำลังกายเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี อาทิ การวิ่งเทิดพระเกียรติ โดย นักวิ่ง 84 คน ร่วมกันอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์จากโรงพยาบาลศิริราชมาที่สวนลุมพินี หรือการรวมพลังนักกีฬา 8,400 คน รวมกันถวายราชสดุดี “84 พรรษามหาราช” และการร่วมกันออกกำลังกายเพื่อเทิดพระเกียรติ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ บูธตรวจสุขภาพ สาธิตการออกกำลังกายและให้คำปรึกษาสุขภาพด้านต่างๆ

ขณะที่ศ.ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย กล่าวว่า การสร้างพื้นที่เมืองเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ควรทำควบคู่กับการส่งเสริมให้ประชากรเปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนคติ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย (physical exercise) ที่ยังยึดติดว่าต้องมีอุปกรณ์ มีสถานที่ มีเพื่อนออกกำลังกาย เป็นการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางกาย (physical activity) ซึ่งหมายถึงการทำกิจกรรมใดๆ ก็ได้ ให้เกิดการขยับร่างกาย เช่น การเดิน การขึ้นบันได การก้าวย่ำ การทำสวน  โดยไม่ยึดติดกับชนิดของการออกกำลังกาย  ใน ต่างประเทศจะมีการสร้างอุปกรณ์เพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางกายไว้ตามที่ สาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสี่แยก ริมแม่น้ำ สวนสาธารณะ เช่น  ไม้คานให้ก้าวขึ้นลง ไม้ดึงยืดแขน ซึ่งเป็นอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆ แต่ทำให้เกิดกิจกรรมทางกายได้ ทั้งนี้ การเปลี่ยนโครงสร้างทางวิศวกรรมในเมืองให้เอื้อต่อการเกิดกิจกรรมทางกาย ต้องสำรวจความต้องการและส่งเสริมให้เกิดการทำกิจกรรมขึ้น เพื่อเป็นตัวอย่างในการกระตุ้นต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ

 

 

 

ที่มา: สำนักข่าว สสส.

Shares:
QR Code :
QR Code