ดูทีวีเวลานอน…สุขภาพทรุด
ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่
นักวิจัยเตือนคนที่ชอบการดูทีวีก่อนนอน เพราะเชื่อว่าการดูทีวีทำให้ง่วงนอนเร็วขึ้นหรือเป็นเพราะติดละครและรายการต่างๆ นั้น ควรระวังเรื่องสุขภาพโทรม โรครุมอย่างไม่ทันตั้งตัว ส่วนเด็กระวังเป็นโรคติดทีวีงอมแงมจนผลการเรียนตกต่ำ
แน่นอนว่า หลายคนที่นอนไม่หลับอยู่บ่อยครั้งมักใช้โทรทัศน์เป็นทางออก เพราะดูเพียงไม่เท่าไหร่ก็เริ่มรู้สึกง่วงแล้ว ทั้งๆ ที่เวลาช่วงนั้นควรจะเป็นเวลาพักผ่อนเสียมากกว่า ขณะที่กลุ่มคนอีกลุ่มหนึ่งกลับตั้งหน้าตั้งตารอเวลาหลังข่าว โดยใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่กับโทรทัศน์จนดึกดื่นเพราะละคร หรือรายการต่างๆ ซึ่งทำให้หลายคนต้องอดนอนไปโดยปริยาย
การศึกษาของ a.u.s. ที่ได้สำรวจวัยรุ่นที่ชอบดูทีวีก่อนนอนจำนวน 21,475 คน ซึ่งเกือบ 50% ที่ยังคงนั่งอยู่หน้าจอในช่วงดึกดื่นซึ่งควรเป็นเวลานอนมากกว่า ทั้งนี้นักวิจัยเผยว่า การที่คนเราใช้เวลาไปกับโทรทัศน์มากจนเกินไปนั้น เปรียบได้ว่า พวกเขากำลังถูกขโมยชั่วโมงนอนโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอันที่จริงแล้ว ไม่ใช่ว่าทุกคนห้ามดูโทรทัศน์ในช่วงเวลากลางคืน
แต่ประเด็นที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพนั้นอยู่ตรงที่ พฤติกรรมและการแบ่งเวลาของแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร เพราะหากจัดสรรเวลาที่มี 24 ชม. เท่ากันไม่ได้ ระยะเวลาพักผ่อนก็จะลดลงไปด้วย และในที่สุดคนๆ นั้นก็จะมีโรคตามมาเพราะโทรทัศน์
ดร.mathias basner นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย
ดังนั้นการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ หรือการนอนหลับสนิทได้ยาวนาน สามารถมอบความรู้สึกสงบนิ่ง ผ่อนคลายได้เหมือนกับการปฏิบัติสมาธิ ซึ่งการอดนอนนั้นจะมีผลกระทบกับฮอร์โมน อันเป็นสาเหตุให้หลายคนเป็นโรคอ้วน โรคความดัน และโรคหัวใจกันเป็นจำนวนมาก
และแม้ว่าผู้ใหญ่จะไม่มีการบ้าน หรืองานต้องส่งครู อาจารย์เหมือนเด็กๆ แต่อย่าลืมไปว่า ชีวิตการทำงานในแต่ละวันนั้น หากไม่มีศักยภาพและความพร้อมในการทำงาน ผลงานที่ออกมาอาจไม่ต่างอะไรกับเด็กที่สอบไม่ผ่านก็ว่าได้
ซึ่งเรื่องโทรทัศน์กับเด็กๆ นั้น เคยมีการวิจัยของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ทางทีมงานได้ศึกษาพบว่า ทีวีในห้องนอนจะทำลายนิสัยการกินและการออกกำลังกายของเด็กได้ แถมยังส่งผลให้เขาทำคะแนนไม่ได้เรื่องในตอนปลายเทอมด้วย
โดยทางทีมงานได้เก็บข้อมูลจากวัยรุ่น 781 คนที่มีอายุระหว่าง 15 – 18 ปี ในเขต
ขณะที่วัยรุ่นชายที่มีทีวีในห้องนอนพบว่า เกรดเฉลี่ยของพวกเขาประมาณ 2.6 เมื่อเทียบกับอีกกลุ่มที่ไม่มีทีวีในห้องนอนได้เกรดเฉลี่ยประมาณ 2.9 ซึ่งยังไม่รวมถึงการรับประทานผลไม้และอยู่ร่วมกับครอบครัวน้อยลง
อย่างไรก็ตาม daheia barr –
ที่มา: หนังสือพิมพ์astv ผู้จัดการ
update 11-06-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก