‘Great food Good run 2018’ เดิน-วิ่ง-กินดีเพื่อสุขภาพ
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
ภาพประกอบจาก สสส.
'Great food Good run 2018' เดิน-วิ่ง-กินดีเพื่อสุขภาพ
เมื่อไม่นานมานี้ หน่วยงานหลักในสังคม อย่าง กระทรวงพาณิชย์กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งแห่งประเทศไทย จึงผนึกกำลังร่วมกันปลุกกระแสการรักสุขภาพทิ้งท้ายปี 2561 กับงานวิ่งแนวใหม่ 'Great food Good run 2018' เพื่อส่งเสริมให้เกิดกระแสการออกกำลังกายด้วยการลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวร่างกายง่ายๆ ด้วยการเดินและวิ่งเพื่อร่างกายแข็งแรง ควบคู่กับการเลือกกินอาหารที่ดีไม่ก่อให้เกิดโทษด้วยโรค NCDs ซึ่งผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัลจากนายกรัฐมนตรีอีกด้วย ณ สนามศุภชลาศัย กรุงเทพฯ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานในพิธี กล่าวเปิดกิจกรรมว่า ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยต้องสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ไปราว 3 แสนคนต่อปีจากการเจ็บป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs สาเหตุหลักของภาวะโรคคือมีพฤติกรรมออกกำลังกายไม่ถึง 150 นาทีต่อสัปดาห์ บวกกับพฤติกรรมการกินอาหารรสหวาน มัน เค็มจัดกินของทอด ของมัน กินเหล้า สูบบุหรี่ และพักผ่อนไม่เพียงพอ 6 หน่วยงานหลักจึงร่วมกันจัดงานเพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่นำสู่การเกิดโรค เพราะนอกจากจะเป็นงานเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ ในระยะ 10 กิโลเมตร 5 กิโลเมตร และ 3 กิโลเมตรแล้ว ยังมีการเปิดพื้นที่จัดบูธนิทรรศการให้ความรู้เรื่องเทคนิคการวิ่ง การเลือกกินอาหารที่ดีและอาหารปลอดภัย รวมไปถึงกิจกรรมออกร้านสินค้า เพื่อสุขภาพมาให้นักวิ่งได้เลือกชิมและช็อปก่อนกลับบ้านกว่า 70 รายการ ถือเป็นกิจกรรมดีๆ ส่งท้ายปี เพื่อลบล้างความเชื่อผิดๆ ว่า 'วิ่งแล้วจะกินอะไรก็ได้'
สอดคล้องกับที่ นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า ในปีแรกนี้ได้เปิดพื้นที่จัดแสดงสินค้าเพื่อสุขภาพกว่า 30 ร้านค้า แบ่งเป็นโซนเกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย และโซนนวัตกรรม เพื่อต้องการสื่อสารว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องเลือกกินอาหารที่มีส่วนประกอบให้เกิดประโยชน์ เช่น โยเกิร์ตจากอัลมอนด์ นมอัลมอนด์ไม่ผสมน้ำตาล ข้าวออร์แกนิก เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการมีสุขภาพดีจากภายในโดยที่ไม่ต้องกินยาเป็นอาหารเพราะเราได้เลือกกินอาหารแทนยาไปแล้ว
ด้านหน่วยงานที่ผ่านการจัดงานเดินวิ่งมามากมาย อย่าง สสส. ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ให้ข้อมูลว่า กิจกรรมครั้งนี้มีนักวิ่งหน้าใหม่และหน้าเก่าสนใจสมัครกว่า 2,500 คน ในแต่ละปีมีการจัดงานเดินวิ่งมากกว่า 1 พันรายการ ซึ่งมีนักวิ่งอยู่ไม่น้อยที่คิดว่าวิ่งแล้วจะกินอะไรก็ได้ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและเป็นอุปสรรคที่คอยขวางไม่ให้เป้าหมายของบางคนสำเร็จ ทั้งคนที่วิ่ง เพื่อการลดน้ำหนัก หรือวิ่งเพื่อการรักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักควรจะหันมาใส่ใจต่ออาหารการกิน เพราะอาหารมีผลโดยรวมมากกว่าการออกกำลังกาย เมื่อมีกิจกรรมนี้อาจถือเป็นจุดสร้างค่านิยมใหม่ เพราะไม่ว่าจะออกกำลังกายอย่างไร ก็ไม่ควรจะกินแบบตามใจปากมากจนเกินไปนัก
"ในครั้งนี้ สสส. ร่วมกับสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งแห่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นพี่เลี้ยงแก่ 4 กระทรวงในการจัดงานวิ่งให้ได้มาตรฐานประกอบกับการบูรณาการความรู้ด้านสุขภาพ ซึ่งเรานำมาตรฐานงานวิ่งมาใช้ในทุกจุด อาทิ กระบวนการกำหนดเส้นทางการกำหนดจุดให้น้ำ จุดทิ้งขยะ ระบบการดูแล หากมีผู้พิการเข้าร่วมกิจกรรม เป็นต้น โดย สสส. เปิดให้ผู้ที่สนใจดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ thaihealth.or.th ด้วยเป้าหมายต้องการยกระดับให้ทุกการจัดงานเดินวิ่งในประเทศไทยเป็นไปตามมาตรฐาน" ผู้จัดการกองทุน สสส.กล่าว
หนึ่งในนักวิ่งที่ผ่านสนามมากว่า 20 สนาม โฉมฉาย จุลไธสงอายุ 38 ปี เล่าถึงการร่วมกิจกรรมในระยะ 10 กิโลเมตร ว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้วเคยลงสมัครวิ่งเป็นครั้งแรกจึงร่วมสมัครครั้งนี้โดยใส่ชุดวิ่งเดิมเนื่องจากตอนนั้นน้ำหนักขึ้นถึง 75 กิโลกรัม ที่ผ่านมาตนวิ่งเป็นหลักควบคู่กับการเลือกกินอาหาร ลดการกินน้ำตาล ลดของทอดลดของมัน ลดการปรุงน้ำปลา ลดโซเดียม กินผักผลไม้เพิ่มขึ้น เลี่ยงขนมปังขาวจนทำให้ปัจจุบันน้ำหนักอยู่ที่ 63 กิโลกรัม และได้สุขภาพที่แข็งแรงโดยไม่ได้รู้สึกเบื่อหรือลำบาก สร้างแรงบันดาลใจให้คนรอบตัวหันมาออกกำลังกายจนลงสนามมาราธอนครั้งแรกที่งานจอมบึงมาราธอนอีกด้วย
แม้งานนี้จะเป็นสนามแรกของหลายๆ คน หนึ่งในนั้นคือ นภัสร์นันท์ บรรเจิดศิลป์ อายุ 22 ปี แชร์ความรู้สึกให้ฟังว่า แม้จะเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่งได้ประมาณ 2 เดือน แต่ก็เลือกงานนี้เป็นงานวิ่งครั้งแรกในชีวิตในระยะ 5 กิโลเมตร เพราะรู้สึกได้ว่าร่างกายดีขึ้น เหนื่อยช้าลง หากมัวลังเลไม่กล้าลงสนามก็จะไม่ได้เริ่มสักที เพราะแม้แต่ตนจะยังอายุน้อยแต่ก็ควรเริ่มต้นดูแลสุขภาพออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์