Page 8 - วารสารเสียงชนเผ่า ประจำเดือนกรกฎาคม 2560
P. 8
ในวัย 7 ขวบ ทามได้ตัดสินใจออกมาใช้ชีวิตข้างถนน ไม่กลับมาอีก เงินที่เคยส่งเสียก็หมดลง ทามจึงได้กลับมาอยู่กับแม่อีก
หลังจากพ่อผู้ซึ่งทามไม่เคยจ�าหน้าได้ติดคุกเพราะยาเสพติด ครั้ง
ครั้งที่แม่ยังท�างานอยู่พัทยา แม่ผู้มีอาชีพเป็นนักร้องบาร์ได้พาทามและ แม่กับทามอาศัยอยู่ในห้องเช่า พอตกค�่าแม่ก็ออกไปท�างานที่
พี่สาวพี่ชายเดินทางจากพัทลุงบ้านเกิดมาอยู่กับตาที่เชียงใหม่ แต่ชีวิต บาร์ อาชีพสาวนั่งดริ้งกับการดื่มหนักที่ติดเป็นนิสัย บ่อยครั้งที่แม่เมา
กลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คาดหวังไว้ ตาได้เสียชีวิตลงเมื่อครอบครัวนี้ แล้วอาละวาด มีเรื่องมีราวจนถูกไล่ออก แม่เข้าออกร้านนั้นร้านนี้จน
มาถึง แม้ยายจะไม่ใช่ยายแท้ๆ เพราะตาแต่งงานใหม่ภายหลัง แต่ยาย สุดสายถนนลอยเคราะห์และถนนกลางคืนสายอื่นๆ ชีวิตของทั้งคู่
ก็รับเลี้ยงพี่ชายและพี่สาว ส่วนทามแม่ได้พาไปฝากไว้ที่บ้านรับเลี้ยง เหมือนนกไร้รัง พักที่ไหนได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องย้ายออก เพราะไม่มีเงิน
เด็กของโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ ขณะที่ตนเองท�างานที่ จ่ายค่าเช่าห้อง ทามมักตามแม่ไปท�างานที่บาร์ บางครั้งแม่จะล็อก
บาร์ ประตูให้อยู่ในห้อง บางวันก็ไม่ได้กินข้าว ทามคิดว่า ชีวิตแม่เคว้งคว้าง
“ตอนผม 5 ขวบแม่เอาไปฝากไว้แล้วไม่ได้กลับมาดูอีกเลย อยู่ ตั้งแต่แฟนญี่ปุ่นกลับไป แม่ไม่มีแขก ไม่มีเงิน การเรียนของทามเลย
ที่นั่น 2 ปี ตอนนั้นก็ 7 ขวบละ แม่ก็มารับกลับเอาไปฝากยายเลี้ยง กระท่อนกระแท่นไปด้วย จากชั้นอนุบาล 3 ที่โรงเรียนวัดป่าแพ่ง ย้าย
ช่วงนั้นแม่มีเงิน เพราะได้แฟนคนญี่ปุ่น” มาเรียนชั้น ป.1 ที่โรงเรียนวัดกู่ค�า ไม่ทันเท่าไรก็ต้องย้ายออก เพราะ
เด็กชายได้กลับมาอยู่กับพี่ๆที่บ้านยาย แต่ช่วงเวลานั้นก็ด�ารง แม่ย้ายห้องเช่า และที่สุดท้ายคือโรงเรียนวัดดอกเงิน ที่เข้าเรียนได้
อยู่ได้เพียงไม่กี่เดือน เมื่อแม่เลิกร้างกับแฟนชาวญี่ปุ่น เพราะแม่ดื่มจัด เพียงวันเดียว ทามไม่อาจรู้ได้เลยว่า นั่นจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตใน
ชอบหาเรื่องทะเลาะ ความสัมพันธ์สะบั้นลงเมื่อเขากลับประเทศแล้ว โรงเรียน
จากประสบการณ์การท�างานที่คลุกคลีกับเด็กหลายประเภท
หลากปัญหามานานปี การเข้าถึงเด็กคือประตูบานแรกที่ต้องเปิดมัน
ให้ได้ พี่พจน์จึงเป็นทั้งพี่ เพื่อน เป็นทั้งครอบครัว เป็นพี่ใหญ่ และเป็น
“ป๋า” ให้กับเด็กอีกหลายคน ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเงินทองหรือเรื่องชีวิต
การท�างานให้เร็วและเข้าถึงจึงเป็นเรื่องส�าคัญมาก หากเด็กคนไหนพบ
เจอกรณีที่น่าสนใจหรือเร่งด่วนก็จะส่งข่าวให้กับทางมูลนิธิฯ
“มีอยู่ครั้งหนึ่งน้องที่เราไปเจอเป็นเด็กเร่ร่อนคุ้ยขยะหากินไป
เรื่อย น้องไม่สบายหนัก เราก็พาไปหาหมอ หมอตกใจมาก น้องเป็น
ไข้กาฬหลังแอ่น โรคที่หายไปจากประเทศไทยนานแล้ว หมอต้องจัด
ยาให้ทุกคนที่ไปด้วยเลย อีกคนหนึ่งก็ติดเชื้อเอชไอวี เร่ร่อนไปทั่ว ก็
ต้องติดตามให้กินยาต้านไวรัส บางคนก็สติไม่สมประกอบ ยุ่งยากมาก
เพราะเขาอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง และไม่อยู่ในระบบไหนเลย แล้วก็มีอีก
คนเป็นเด็กเล็กสัก 5-6 ขวบ บอกว่าอยู่กับลุง เก็บของเก่านั่งรถเข็นไป
ด้วย ถ้าผู้ใหญ่กินกระทิงแดงเด็กก็ได้กิน ถ้าผู้ใหญ่กินเหล้าเด็กก็ได้กิน
เหล้า ซักไปซักมาก็ไม่แน่ใจว่าเป็นลุงจริงหรือเปล่า”
เรื่องสิทธิเด็ก คุณภาพชีวิต การถูกล่วงละเมิด จนถึงการค้า
มนุษย์หรือแม้กระทั่งโรคติดต่อร้ายแรง ดูเหมือนจะห่างไกลจากการ
รับรู้ของคนทั่วไป เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาต้องประสบพบ
เจออะไรบ้าง บนทางเลือกที่เหมือนถูกบังคับเลือกเช่นทาม
ดึกคืนหนึ่ง แม่เลิกจากงานด้วยอาการเมาและอารมณ์เสีย เช่น
ที่เป็นอยู่ประจ�า แม่ดึงทามขึ้นมาตีด้วยไม้กวาดขณะก�าลังงัวเงีย คืน
นั้นทามตัดสินใจว่าจะไม่อยู่กับแม่แล้ว
8