Page 14 - วารสารเสียงชนเผ่า ประจำเดือนกรกฎาคม 2560
P. 14
เด็กเริ่มโต เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เด็กก็จะเริ่มคิดได้ เริ่มเปลี่ยนวิธีคิดในการ รุนแรงในครอบครัว เราก็จะให้พักอยู่ที่ศูนย์นี้บ้างและประสานงาน
ใช้ชีวิต บางคนก็อยากกลับบ้านบ้าง บางคนก็อยากหางานจริงๆ จังๆ ร่วมกับองค์กรอื่น เครือข่ายที่มีการจัดการเกี่ยวกับเรื่องบ้านพักพิง
ท�า หรือก็อยากกลับไปเรียน เราก็ค่อยๆ หาทิศทางให้เขาต่อ ว่า เด็ก ทั้งของภาครัฐและของ NGOs แล้วแต่ว่าเด็กเหมาะสมกับที่ไหน
อะไรที่จะเหมาะสมกับเขา ที่เขาอยากท�าจริงๆ เป็นไปได้จริงๆ อย่าง ก็ทดลองให้เด็กไปอยู่ว่าปรับตัวได้ไหม
คนที่อยากเรียน เราก็จะให้ลองเรียนที่นี่ก่อน ปรับพื้นฐาน ปรับ อย่างกระบวนการหรือกิจกรรมที่เราท�าอยู่นี้ ตอนแรกเราก็
พฤติกรรมก่อน เพราะบางคนก็ยังติดนิสัยเดิมๆ อยู่ ต้องดูว่าก้าวร้าว ท�ากับเฉพาะเด็ก อย่างเรื่องสิทธิเด็กเพื่อให้เด็กรู้ว่าเด็กมีสิทธิอะไร
ไหม ชอบต่อยตีเพื่อนไหม ขโมยของไหม เราก็จะมีเจ้าหน้าที่ช่วย บ้าง แต่เราไม่ได้ท�างานเชื่อมกับพ่อแม่ อย่างเด็กไปท�างานหนักหรือ
ดูแลมีกระบวนการปรับพฤติกรรมก่อน เตรียมพื้นฐานเรื่องการเรียน เดินขายดอกไม้นี่ เด็กก็รู้ว่าเขามีสิทธิที่จะปฏิเสธตรงนี้ได้ แต่ถ้าให้
ด้วย อย่างเด็กบางคนเป็นชนเผ่ายังไม่เคยได้เรียนมาก่อน คือเคยมี เด็กไปพูดกับพ่อแม่ เด็กก็ไม่กล้าไปพูด กลัวถูกตีอย่างนี้ เป็นต้น เรา
ช่วงแรกๆ เราก็พาเด็กส่งไปเรียนที่ศึกษาสงเคราะห์ ปรากฏว่าเขียน ก็เออ! ตัวเด็กนี่เขารู้แล้วเรื่องสิทธิเด็ก เขารู้ว่าเขามีสิทธิอะไร เขา
ไม่ได้ ไม่มีพื้นฐานเลยเรียนไม่ทันคนอื่นๆ เราก็เลยคิดกันว่าอย่างนั้น อยากท�าอะไร เขาอยากมีชีวิตอย่างไร แต่มันก็ติดที่ผู้ใหญ่นั่นแหละ
ต้องมีการเตรียมความพร้อม ปรับพื้นฐานให้เด็กก่อน ก่อนที่จะ ผู้ใหญ่มันมีพลังในการบังคับมากกว่า เราก็คิดว่า เราน่าจะดึงเอาพ่อ
เข้าไปเรียนในระบบจริงๆ แม่มามีส่วนร่วม ในการท�ากิจกรรม เราก็ค่อยๆ เข้าไปท�ากิจกรรม
ส่วนถ้าเด็กอยากกลับบ้าน เราก็ต้องดูครับว่า ครอบครัวเด็ก รวมกลุ่มให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสิทธิเด็ก ว่าเด็กคือใคร เด็กควรได้
เป็นอย่างไร พร้อมที่จะรับกลับไปดูแลไหม ต้องมีการพูดคุยกับ รับอะไร เขาอยากให้ลูกของเขาโตขึ้นมาเป็นอย่างไร แต่เราไม่ได้ไป
ครอบครัว พ่อแม่ญาติพี่น้อง ว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร ปัญหาทาง บอกว่าสิทธิเด็กมีดังนี้ 1 2 3 ไม่ได้ไปบังคับเขาอย่างนี้ แต่เราจะชวน
บ้านเป็นอย่างไร ท�าไมเด็กจึงออกจากบ้านมา ค่อยๆ เตรียมร่วมกัน เขาคุย เข้าร่วมกระบวนการ ให้เขาได้ตระหนักเอง ว่าลูกของเขาที่
กับทางบ้านของเด็ก...ส่วนถ้าเราประเมินแล้วว่าไม่สามารถกลับบ้าน เขาให้เกิดมานี้เขาอยากให้ลูกเขามีชีวิตอย่างไร ส่วนใหญ่ก็อยากให้
ได้ อาจเป็นว่า พอเด็กกลับไปอาจเอาเด็กไปขายอีก บางทีครอบครัว ลูกได้ท�างานดีๆ แต่ลูกก็ต้องไปขายดอกไม้ดึกๆ ได้ไปเรียนบ้างไม่ได้
ที่เด็กจะไปอยู่ด้วยไม่มีญาติจริงๆ เหลืออยู่แล้ว หรือยังมีการใช้ความ ไปบ้าง เออเขาก็คิดได้นะ ว่าควรดูแลลูกอย่างไร เราก็เล่นเกมบ้าง
14