11 ดัชนีชี้วัดตัวการคร่าชีวิตคนไทยบนท้องถนน

ศวปถ.-สสส. ผนึกเครือข่ายอุบัติเหตุ เปิดสถานการณ์อุบัติเหตุ ย้อนรอย 10 ปี เกิดอุบัติเหตุเกือบล้านครั้ง คร่าชีวิตคนไทยกว่าแสนราย แนวโน้มมีผู้เสียชีวิตลดลง แต่ความรุนแรงกลับสูงขึ้น ดื่มแล้วขับยังเป็นปัญหา เทศกาลปีใหม่ พบจยย.ขี้เมาสุด 52.4% เด็ก เยาวชน เจ็บมากสุด ทั้งเมาแล้วขับ ไม่สวมหมวก ชี้ไม่เมาแล้วขับ ลดเจ็บได้ปีละ 3 หมื่น ตายปีละ 3 พัน


11 ดัชนี ชี้วัดตัวการคร่าชีวิตคนไทยบนท้องถนน สู่ทศวรรษแห่งการลงมือทำ : Time For Action


วันที่ 17 ส.ค. ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ ราชปรารภ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) ร่วมกับ มูลนิธิไทยโรดส์ ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดแถลง “11 ดัชนี ชี้วัดตัวการคร่าชีวิตคนไทยบนท้องถนน สู่ทศวรรษแห่งการลงมือทำ : Time For Action” โดย นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) กล่าวว่า  สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในบ้านเรา ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2543 – 2552 มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้น 983,076 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 124,855 ราย และมีอีก 151,286 ราย ที่ต้องทนทุกข์จากการบาดเจ็บสาหัส  ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2553 สำรวจผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน50,272,371 คน พบมีผู้เคยประสบอุบัติเหตุจากการเดินทางทางถนน 1,546,337 คน คิดเป็น 3.1% เฉลี่ยวันละ 4,384 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้บาดเจ็บ 1,189,133 คน คิดเป็น 76.9% และมีถึง 11,386 คน คิดเป็น 0.9% ที่มีการสูญเสียอวัยวะร่วมด้วย โดย 43.5% ของกลุ่มผู้ประสบอุบัติเหตุทั้งหมด เป็นหัวหน้าครัวเรือน และ 37.2% เป็นบุตร


นพ.ธนะพงศ์  กล่าวต่อว่า แม้ว่าสถิติที่ผ่านมาระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ 100 ครั้ง เพื่อหาค่าดัชนีความรุนแรง กลับพบว่าความรุนแรงของอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงเมื่อพิจารณาค่าดัชนีการเสียชีวิต หรือสัดส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตต่อจำนวนรวมผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ การดำเนินนโยบายลดความรุนแรงของอุบัติเหตุทางถนนจึงควรเป็นจุดเน้นหนักมากยิ่งขึ้น


ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการ สสส. ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า อุบัติเหตุเป็นสาเหตุของความสูญเสียทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา ซึ่งเก็บข้อมูลในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 จากผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรในโรงพยาบาลศูนย์ทั่วประเทศ พบว่า กลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์มีสัดส่วนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงสุด คือ  52.4% รองลงมาคือ กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยาน /รถสามล้อ 40.4% และรถปิกอัพ  35.5% มีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากการขับขี่พาหนะทุกประเภทที่ดื่มแล้วขับ 51.6% เพิ่มขึ้นจากปี 2552 มี 44.4% เยาวชนเป็นกลุ่มที่บาดเจ็บและเสียชีวิต  สูงที่สุด จากพฤติกรรมเสี่ยงทั้งเมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย กลุ่มเยาวชนอายุ 20-24 ปี บาดเจ็บรุนแรงจากการเมาแล้วขับ 47.9% กลุ่มอายุ 15-19 ปี พบ 30.4% ที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ดื่มก่อนขับขี่สูงถึง 12.8%


“แม้ว่าจะมีผู้ดื่มแล้วขับเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในกรณีเมาแล้วขับลดลง คิดเป็น 2.57% ของคดีอุบัติเหตุทางถนน ลดลงจากปี 2552 ที่มีถึง 3.75% และยังพบการละเมิดกฎหมายขายสุราในเวลาที่ห้ามขาย 9.63% ทั้งนี้ มีการประมาณการณ์ว่า หากสามารถลดพฤติกรรมเมาแล้วขับได้จะป้องกันการตายจากอุบัติเหตุได้ปีละ 3,000 ราย และป้องกันการบาดเจ็บได้ถึงปีละ 30,000 ราย ดังนั้น จำเป็นต้องสนับสนุนความเคลื่อนไหวภาคประชาชนและภาครัฐ เพื่อปลุกจิตสำนึก และขยายผลการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงการผลักดันกฎหมายเพื่อควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น”ดร.สุปรีดา กล่าว


ทั้งนี้ระหว่าง วันที่ 25-26 ส.ค.นี้ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และภาคีเครือข่ายอุบัติเหตุ ได้จัดงานสัมมนาระดับชาติเรื่องความปลอดภัยทางถนนครั้งที่ 10 “ทศวรรษแห่งการลงมือทำ : Time For Action”  ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติกรุงเทพ ไบเทค บางนา  เน้นการมีส่วนร่วม เพื่อลดการตายให้ได้ครึ่งหนึ่ง ภายใน 10 ปี


 



ที่มา : สำนักข่าว สสส.

Shares:
QR Code :
QR Code