11 องค์กรเครือข่ายด้านเด็ก จัดงาน “มหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคม”

พร้อมถกปัญหาด้านสังคมครบวงจร

 11 องค์กรเครือข่ายด้านเด็ก จัดงาน “มหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคม”

พม่า-ลาว-เขมร ยังทะลักเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 6 ล้าน เด็กไร้สัญชาติพุ่งเกือบ 2 แสนไร้การศึกษา ศธ.เร่งดันเข้าครม. ให้เรียนเหมือนเด็กไทย สสส.จับมือเครือข่ายด้านเด็ก11 องค์กร ถกประเด็นด้านเด็กพร้อมเปิดเวทีให้โจ๋โชว์ศักยภาพ ตั้งแต่หน้าหอศิลป์กทม.ยาวถึงสยามพารากอน

 

เมื่อวันที่  9 ต.ค.  ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ 11 องค์กร อาทิ  มูลนิธิสยามกัมมาจลฯ มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  จัด มหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคมครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 9-11 ต.ค. ภายในงานมีเสวนา พลังเยาวชน…คนชายขอบ(ไร้รัฐและชาติพันธุ์)

 

 โดย นายสมชาติ พิพัฒน์ธราดล หัวหน้าโครงการพัฒนาสถานภาพและคุ้มครองสิทธิเด็กไร้รัฐและเด็กไร้สัญชาติในประเทศไทย กล่าวว่า  ขณะนี้คาดว่ามีชาวต่างชาติ อาทิ พม่า ลาว เขมร อพยพ เข้ามาในไทยจำนวนไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน และมีแนวโน้มว่าจะลักลอบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่จากความยากจน จึงทำให้มีชาวต่างชาติหลายกลุ่มเพิ่มขึ้น และมีการเรียกร้องขอสัญชาติไทยให้กับเด็กๆ  ที่มีส่วนกดดันการทำงานของรัฐบาล อย่างกรณี ด.ช.หม่อง ทองดี 

 

ปัจจุบันคาดว่ามีเด็กไร้สัญชาติที่ยังถูกเลือกปฏิบัติ และไม่ได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ประมาณ 2 แสนคน แต่ทราบว่า กระทรวงศึกษาธิการ ได้พยายามผลักดันนโยบายการศึกษาของเด็กไร้สัญชาติเข้า ครม. เพื่อให้เด็กๆได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกับเด็กไทย ทั้งนี้มีเด็กไร้สัญชาติทั่วประเทศเข้ามาเรียนอยู่ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั้งภาครัฐและเอกชนเกือบ 7 หมื่นคนแล้วซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ส่วนการดูแลไม่ให้มีผู้ลักลอบเข้าเมืองไทย คงต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่การดูแลเด็กต่างชาติ ที่เข้ามาอยู่ในไทยแล้ว และพวกเขาก็คิดและเชื่อมั่นอย่างเต็มหัวใจว่าพวกเขาคือคนไทย ก็ต้องเดินหน้าต่อไปนายสมชาติ กล่าว

 

นางเพ็ญพรรณ  จิตตะเสนีย์ ผอ.สำนักสนับสนุนการเรียนรู้และสุขภาวะองค์รวมสสส.  กล่าวว่า กรณีเด็กไร้สัญชาติเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาพูดคุยในงานครั้งนี้ เพราะเด็กเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นเด็กที่มาศักยภาพและมีความสามารถ หากได้รับโอกาสทางการศึกษาและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พวกเขาจะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยพัฒนาประเทศไทย

 

นอกจากการเสวนาในประเด็นทางสังคม ภายในงานยังมีกิจกรรมมากมาย ซึ่ง สสส. จะเป็นอีกหนึ่งกำลังในการร่วมกันดึงพลังด้านบวกของเยาวชนให้สังคมได้เห็น คาดว่าจะมีเด็กมาร่วมงานวันละประมาณ 5 พันคน อาทิ ศิลปะบำบัดหัวใจ บำบัดชีวิต  โดยเสมสิขาลัย  โนราห์เชิด โดยกลุ่มเยาวชนโนราห์ศิลป์เสน่ห์   ดนตรีคลาสสิกของวงนักดนตรีคลื่นลูกใหม่ 60 คน การแสดงดนตรีของกลุ่มดนตรีโคตรอินดี้ และวรรณสิงค์โชว์ การแสดงหมอลำ ลิเกฮูลู กิจกรรมเวิร์กช็อป ซึ่งจัดสรรมาเพื่อให้เยาวชนสมัครเข้าร่วมพัฒนาทักษะด้านตามความชอบ อาทิ เทคนิคการวาดการ์ตูน อ่าน เขียน เรียนรู้ชีวิต การทำหนังสั้น การเขียนบทละคร

 

 

 

 

 

 

ที่มา: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.

 

 

 

update: 09-10-52

อัพเดทเนื้อโดย: อัญณิกา กฤษสมัย

Shares:
QR Code :
QR Code