108 เล่ม หนังสือดี ของขวัญเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก
วัยเด็กเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ควรได้รับการปลูกฝังให้อ่านหนังสือ เพราะหนังสือช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและทักษะทั้งด้านจิตใจ ปัญญา และอารมณ์
ด้วยความมุ่งหวังให้เด็กไทย มีนิสัยรักการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมการอ่าน ได้จัดงานประกาศผล และมอบรางวัล “โครงการคัดหนังสือดีเพื่อสร้างเสริมการพัฒนาหน้าต่างแห่งโอกาสสำหรับเด็กวัย 9-12 ปี” ซึ่งเป็นหนังสือดี 108 เล่ม ที่เหมาะสำหรับเด็กในช่วงวัยดังกล่าว รวมทั้งสามารถเป็นคู่มือพ่อแม่เลี้ยงลูกอีกด้วย
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า หนังสือทั้ง 108 เล่ม เหมือนเป็น 108 หน้าต่างแห่งโอกาสที่ดีของเด็กต่อไปในอนาคต เพราะการอ่านเป็นรากฐานของกระบวนการคิดในด้านต่างๆ ของเด็ก รวมถึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนามนุษย์ ซึ่งการสร้างวัฒนธรรมการอ่านในเยาวชนโดยเฉพาะช่วงวัย 9-12 ปี นับเป็นวัยที่เหมาะสมแก่การพัฒนาคุณภาพของสมอง ความคิด ทักษะการใช้ชีวิต การตื่นรู้ทางปัญญา เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับการมีความสุขในชีวิต
ขณะที่ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 4 สสส. กล่าวถึง ‘ความสำคัญของการอ่าน เพื่อสร้างเสริมการพัฒนาหน้าต่างแห่งโอกาสสำหรับเด็กวัย 9-12 ปี’ ว่า การอ่านเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นมนุษย์ และมีผลต่อการพัฒนาความสามารถ โดยเด็กช่วงอายุ 9-12 ปี เป็นวัยที่เติบโตเรื่องของภาษา คณิตศาสตร์ และความคิด ซึ่งมีความเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น หากเด็กได้มีโอกาสพัฒนาการอ่าน จะทำให้เขากล้าเข้าไปสู่โลกการเรียนรู้ที่ไร้ขอบเขตไร้พรมแดน
นพ.ยงยุทธ บอกอีกว่า สำหรับพ่อแม่ วิธีกระตุ้นการอ่านที่ได้ผลดีสำหรับเด็กช่วงวัยนี้ คือ การอ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอน เพราะเขาจะจินตนาการตามที่พ่อแม่อ่าน และจะมองเห็นว่าสิ่งที่เขาชอบมาจากตัวหนังสือที่พ่อแม่อ่านให้ฟัง และจะส่งเสริมให้เด็กเริ่มอยากอ่านหนังสือตาม
ด้าน นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน บอกว่า ช่วงวัย 9-12 ปี เป็นวัยที่กำลังบ่มเพาะอุดมคติ หนังสือที่มีความสำคัญต่อเด็กวัยนี้ คือ หนังสือประเภทวรรณกรรมสำหรับเด็ก ที่มีเนื้อหาทำให้เกิดความเกื้อกูล เห็นคุณค่า ทัศคติเชิงเพศและสังคม สำหรับหนังสือทั้ง 108 เล่ม เป็นหนังสือไทย จำนวน 62 เล่ม และหนังสือต่างประเทศ จำนวน 46 เล่ม ซึ่งมีทั้ง หนังสือประเภท วรรณกรรมเยาวชนที่มีทั้ง วรรณกรรมคลาสสิค และวรรณกรรมใหม่ หนังสือการ์ตูนคอมมิก หรือ หนังสือภาพการ์ตูน หนังสือประเภทสาระความรู้ และยังมีอีกหลากหลายประเภท ซึ่งหนังทั้ง 108 เล่มนี้ จะมีความเป็นเรื่องราวที่เหมาะกับเด็กวัยนี้ซึ่งเป็นวัยที่ชอบค้นหาและช่างสังเกต
ด้าน ด.ญ.ชลธิชา ดาวเรือง หรือน้องบี นักเรียนชั้น ป. 6/7 รร.ประชาอุทิศ วัย 13 ปี บอกว่า ชอบอ่านหนังสือมากๆ ช่วงเวลาว่างที่โรงเรียนจะไปอ่านหนังสือกับเพื่อนๆ ที่ห้องสมุด บางครั้งก็ยืมหนังสือกลับไปอ่านที่บ้านได้ ส่วนหนังสือที่ชอบอ่านคือ ‘ขยะวาตภัย’ เป็นหนังสือที่มีให้ความรู้เรื่องขยะ ที่มีทั้งดีและร้าย สอนให้รู้จักการแยกขยะ และนำขยะหรือสิ่งของเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์ หนูอยากให้เพื่อนๆ หันมาอ่านหนังสือ จะเป็นหนังสืออะไรก็ได้ ที่ตนเองชอบแต่ต้องเป็นหนังสือที่มีประโยชน์ต่อตัวเองด้วย
สำหรับหนังสือคัดสรร 108 หนังสือดี เพื่อสร้างเสริมการพัฒนาหน้าต่างแห่งโอกาสวัย 9-12 ปี จากสำนักพิมพ์ 20 แห่ง ที่โดดเด่นทั้งด้านการพิมพ์วรรณกรรมเยาวชนคลาสสิค และวรรณกรรมใหม่ การสร้างสรรค์การ์ตูน การพิมพ์หนังสือเป็นชุดทั้งประเภทความรู้ ที่มีภาพประกอบที่น่าสนใจ หรือเป็นหนังสือการ์ตูนความรู้ โดยหนังสือดีที่ได้รับรางวัล เช่น หมาป่าใจดีกับลูกหมูสามตัว, นิทานอ่านอร่อย, สุภาพบุรุษชื่อกุหลาบ สายประดิษฐ์, มหันตภัยพลังงานขาดแคลน เป็นต้น
สนใจสามารถดูรายหนังสือคัดสรร 108 เล่ม หนังสือดี ได้จาก แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน http://www.happyreading.in.th/bookreview/detail.php?id=421
เรื่องโดย : พิมพ์ชนก ศรเพชร Team Content www.thaihealth.or.th