ใช้อุปกรณ์ไฮเทคขณะขับขี่เสี่ยงเกิดเหตุ
ทั้งทีวี ซีดี mp3 โทรศัพท์มือถือ
การใช้อุปกรณ์ไฮเทคและสิ่งอำนวยความสะดวกในขณะขับขี่ ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อความปลอดภัย ให้หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องละสายตาจากการมองเส้นทาง หรือให้เพื่อนร่วมทางจัดการแทน กรณีไม่มีคนเดินทางไปด้วย ให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัยให้เรียบร้อยก่อนใช้อุปกรณ์ดังกล่าว
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า หลายคนคงไม่ทราบว่าการใช้อุปกรณ์ไฮเทคและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในขณะขับขี่ เช่น การเปลี่ยนคลื่นวิทยุ การเปลี่ยนแผ่นซีดี mp3 การตรวจสอบเส้นทางโดยใช้ gprs การดูทีวี การพิมพ์และส่งข้อความหรือการแชตทางโทรศัพท์มือถือ การค้นหาข้อมูลทาง bb จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ผู้ขับขี่ต้องละสายตาจากเส้นทางเป็นเวลานาน หันเหความสนใจไปจากการขับรถ เพื่อความปลอดภัย ขอเตือนภัยจากการใช้อุปกรณ์ต่างๆขณะขับรถ ดังนี้
ทีวี /ดีวีดี แม้ผู้ขับขี่จะไม่ได้สนใจดูจอภาพ แต่แสงสว่าง เสียง และภาพที่เคลื่อนไหว ล้วนดึงดูดความสนใจของผู้ขับขี่ ทั้งยังกระตุ้นให้ขับรถเร็วกว่าปกติ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย จึงไม่ควรติดตั้งทีวีในจุดที่คนขับมองเห็น ไม่เปลี่ยนช่องไปมา หรือเปิดทีวีเสียงดังเกินไป เพราะจะรบกวนสมาธิในการควบคุมรถของผู้ขับขี่
วิทยุ ซีดี mp3 การเปลี่ยนคลื่นวิทยุและการฟังเพลงเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเพลงเร็วจะกระตุ้นให้ผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงโดยไม่รู้ตัว ทำให้สมรรถนะในการขับขี่ลดลง การประเมินสถานการณ์รอบข้างและการรับรู้ความเร็วช้ากว่าปกติ ไม่ได้ยินเสียงแตรหรือเสียงจากสภาพแวดล้อมรอบข้าง โดยผู้ขับขี่มักฝ่าสัญญาณไฟแดง เปลี่ยนเลนไปมา และขับรถปาดซ้ายปาดขวา
โทรศัพท์มือถือ เน็ตบุ๊ค ไอพอด ไอโฟน การพิมพ์ข้อความหรือกดหมายเลขโทรศัพท์ขณะขับขี่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงถึง 23 เท่า เนื่องจากผู้ขับขี่ต้องละสายตาออกจากเส้นทางเฉลี่ย 4.6 วินาที หรือคิดเป็นระยะทางเท่ากับสนามฟุตบอล ซึ่งในระหว่างที่ละสายตาจากเส้นทางมีความเสี่ยง ต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีปฏิกิริยาในการหยุดรถช้ากว่าปกติ รวมถึงมักขับรถออกนอกเส้นทางเดินรถ เป็นประจำ
เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ไม่ควรใช้อุปกรณ์ไฮเทคหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้เสียสมาธิในขณะขับขี่ โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องใช้สายตาในการจดจ้อง เพราะจะส่งผลต่อการบังคับพวงมาลัย การใช้ความเร็ว การมองเห็นป้ายจราจร การเหยียบเบรก หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในลักษณะรุนแรง
หากต้องใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในขณะขับรถ ควรให้เพื่อนร่วมทางจัดการให้หรือใช้แทนจะปลอดภัยมากกว่า กรณีที่ไม่มีคนเดินทางไปด้วย ให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัยให้เรียบร้อยก่อนใช้อุปกรณ์ดังกล่าว เพราะแม้เพียงเสี้ยววินาทีที่ผู้ขับขี่ละสายตาจากเส้นทางในขณะที่เท้ายังเหยียบคันเร่ง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะที่ไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา
ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
update:07-09-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่