โพลล์ชี้ผู้บริโภคเกินครึ่งถูกโฆษณาหลอก

เอแบคโพลล์ระบุผู้บริโภคกว่าครึ่งได้รับผลกระทบจากโฆษณาสินค้าหลอกให้ซื้อ โดยได้สินค้าไม่ตรงกับโฆษณา ขณะที่กว่า 80% ไม่เคยร้องเรียนเพื่อปกป้องสิทธิของตัวเอง เหตุไม่รู้ขั้นตอน กลัวเสียเวลา ไม่เชื่อมั่นหน่วยงานที่รับผิดชอบ

โพลล์ชี้ผู้บริโภคเกินครึ่งถูกโฆษณาหลอก

ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้อำนวยการโครงการ abac consumer index บัณฑิตวิทยาลัยบริหารธุรกิจ และนายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ร่วมกับ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคโพลล์ นวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ โดยการสนับสนุนของธนาคารกรุงศรีฯ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง สิทธิของผู้บริโภคที่ถูกคุกคาม กรณีศึกษาตัวอย่างผู้บริโภคระดับครัวเรือน อายุ 18 ปี ขึ้นไป ใน 12 จังหวัดของประเทศ จำนวน 2,764 ตัวอย่าง วันที่ 15 ส.ค. 20 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.4 ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากการโฆษณาทางโทรทัศน์ รองลงมา คือ ร้อยละ 30 จากคำแนะนำของเพื่อนหรือคนรู้จัก ร้อยละ 29.2 จากคำชักชวนของผู้ขาย ร้อยละ 23.4 จากสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ร้อยละ 14.4 จากวิทยุ และร้อยละ 10.4 จากอินเทอร์เน็ต

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคที่ประสบปัญหาในการซื้อสินค้าร้อยละ 56.5 ระบุราคาสินค้าไม่ตรงกับโฆษณา/ป้ายบอกราคา รองลงมา คือ ร้อยละ 47.8 ระบุสินค้าโฆษณาเกินจริง ร้อยละ 43.5 สินค้าชำรุด บกพร่อง เน่าเสีย รองๆ ลงไป คือ เงื่อนไขการรับประกันสินค้าไม่ยุติธรรม ไม่มีมาตรฐานสินค้า เช่น อย. , มอก. และไม่ได้รับความเป็นธรรมในการบริการต่างๆ เช่น เรื่องการเสริมความงาม การรักษาพยาบาล เป็นต้น

เมื่อสอบถามถึงการรับรู้รับทราบหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาต่อสิทธิของผู้บริโภคด้านต่างๆ หรือไม่ พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.6 รับรู้รับทราบ แต่ร้อยละ 25.4 ไม่ทราบ

และที่น่าเป็นห่วง คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.7 ไม่เคยร้องเรียน ร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง เพราะไม่รู้จะติดต่ออย่างไร คิดว่าจะยุ่งยาก เสียเวลา ไม่เชื่อมั่นว่าจะช่วยได้ ร้องเรียนไปก็เท่านั้นไม่มีอะไรดีขึ้น เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 11.3 เคยใช้สิทธิร้องเรียน ร้องทุกข์ ทั้งนี้ ในกลุ่มคนที่เคยร้องเรียนร้องทุกข์ มีเพียงร้อยละ 38.5 เท่านั้นที่พอใจต่อความสามารถของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ความไม่เป็นธรรมต่อสิทธิของผู้บริโภค ร้อยละ 30.8 ระบุปานกลาง และร้อยละ 30.7 ระบุน้อยถึงไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

ดร.อุดม ได้เสนอแนะว่า จำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคทั้งระบบ สร้างการรับรู้และความตระหนักในกลุ่มผู้บริโภคต่อสิทธิของตนเองที่จะร้องเรียน ร้องทุกข์กล่าวโทษ ในขณะที่ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบ 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

Shares:
QR Code :
QR Code