เล็งถอน”เหล้า-บุหรี่” พ้นบัญชีสินค้าภาษี0%

ต้านการค้าสินค้าอันตรายต่อสุขภาพ

 

เล็งถอน”เหล้า-บุหรี่” พ้นบัญชีสินค้าภาษี0%

 

         อลงกรณ์ สั่งทบทวนข้อตกลงการค้าเสรี เล็งดึงเหล้า-บุหรี่ ออกจากบัญชีสินค้าที่ต้องลดภาษีนำเข้าเข้า อ้างต้องการต่อต้านการค้าสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ  เตรียมกร้าวผนึกชาติอาเซียน กดดันจีนเลิกเล่นเลห์ เลี่ยงข้อตกลงค้าเสรี จีน-อาเซียน

 

         นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศไปรวบรวมข้อมูลว่าปัจจุบันไทยได้จัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีสินค้าอันตรายต่อสุขภาพ เช่นสินค้าที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์ อาทิ ไวน์ เบียร์ สุรา และบุหรี่ กับประเทศใดบ้าง เพื่อทบทวนการเปิดเสรีใหม่

 

         โดยจะขอยกรายการสินค้าดังกล่าวออกจากบัญชีสินค้าที่ต้องลดภาษีนำเข้าเหลือ 0 %ในทุกกรอบของการเปิดเสรี เนื่องจากต้องการสร้างมาตรฐานการค้าระหว่างประเทศใหม่ ส่งสัญญาณให้ทุกประเทศรู้ว่า ไม่ควรส่งเสริมการค้าสินค้าอันตรายที่เป็นภัยต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของครอบครัว”การขอยกเลิกการลดภาษี 0 %ในสินค้าสุรา ไวน์ เบียร์และบุหรี่ของไทย ไม่ใช้การกีดกันทางการค้า เพราะคู่ค้ายังคงค้าขายและส่งออกสินค้าดังกล่าวมายังไทยได้ตามปกติ

 

         แต่ไทยอาจขอกลับไปจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงตามเดิม  ถือเป็นการสร้างมาตรฐานการค้าที่ถูกต้อง  เพราะที่ผ่านมาทุกประเทศทั่วโลกส่งสัญญาณการค้าผิด ที่ส่งเสริมให้มีการค้าสินค้าอันตรายและมั่นใจว่าทุกประเทศจะเห็นด้วยกับจุดยืนของไทย ” นายอลงกรณ์กล่าวนอกจากนี้เขามั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงให้สภาผู้แทนราษฏร์ในประเทศต่างๆคงเข้าใจและให้เห็นคล้อยตามได้ และเชื่อว่า จะไม่กระทบกับแผนการลดภาษีนำเข้าสินค้ารายการอื่นๆที่อยู่ภายในข้อตกลงในกรอบอื่นๆ แน่นอน

 

         โดยกรอบความตกลงแรกที่ไทยจะดำเนินการขอให้ยกเลิกการเปิดเสรีสินค้าดังกล่าวคือ กรอบของข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย และ กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ไทย-นิวซีแลนด์เนื่องจากครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดให้มีการทบทวนการเปิดเสรีแล้วนายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังเตรียมเสนอที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนตุลาคมนี้ที่ประเทศเวียดนาม ให้จีนยกเลิกการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับสินค้าที่นำเข้าจากไทยและอาเซียน

 

         ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดทำข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรีกับจีนไปแล้ว และแม้จีนจะลดภาษีนำเข้าเป็น 0% แต่กลับมาเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้นำเข้าของไทยและอาเซียน ไม่แตกต่างอะไรจากการเก็บภาษีนำเข้า ถือว่า จีนไม่ได้ทำตามข้อตกลงเปิดเสรี ทั้งนี้ในเบื้องต้นหลายประเทศในอาเซียนเห็นด้วยกับข้อเสนอของไทยแล้ว เพราะเห็นว่าจีนมีการเปิดเสรีที่ไม่เป็นธรรม

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

 

 

update: 14-07-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ

Shares:
QR Code :
QR Code