เยี่ยม ดร.อิศรา ผู้สร้างสุขสู่พี่น้องมุสลิมไทย

ผู้จัดการ สสส. เยือน “มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย” ร่วมแลกเปลี่ยนความคิด และองค์ความรู้ หวังช่วยลดปัญหาบุหรี่-สุรา สู่การขับเคลื่อนสุขภาวะที่ดีในสังคมมุสลิมไทย

เมื่อเร็วๆ นี้ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เข้าเยี่ยม รศ.ดร.อิศรา ศานติศาสน์ ประธานมูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย ณ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมมอบของที่ระลึกแก่ประธานมูลนิธิฯ และทีมงาน

รศ.ดร.อิศรา กล่าวว่า มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) เป็นองค์กรของสังคมมุสลิมที่ได้รับการยอมรับ หลังจากทำงานมากว่า 5 ปี ตั้งแต่ปลายปี 2551 ด้วยเจตนาที่ต้องการสร้างเสริมสุขภาวะในสังคมมุสลิมให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจำนวนประชากรมุสลิมทั่วประเทศที่มีประมาณ 6.5 ล้านคน แต่ด้วยความเป็นกลุ่มประชากรที่มีลักษณะเฉพาะหลายประการ แม้ปัญหาสุขภาวะส่วนใหญ่จะไม่แตกต่างไปจากคนไทยทั่วไปนัก แต่หลายปัญหาเป็นปัญหาเฉพาะ เช่น ปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของสตรีมุสลิม ปัญหาการสูบบุหรี่ ยาเส้นและผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งต้องใช้ยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาแตกต่างไปจากประชากรกลุ่มอื่น

“มูลนิธิฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ในการทำงานไว้ 5 ยุทธศาสตร์ คือ 1.สิ่งเสพติด ยาสูบและสุรา 2.ครอบครัว แม่และเด็ก 3.เศรษฐกิจยั่งยืน ประสานความร่วมมือระหว่างชุมชนและมัสยิด 4.การศึกษา โรงเรียนผู้นำสุขภาวะ, โรงเรียนปอเนอะสร้างสุข และ 5.การเปลี่ยนโฉมหน้าสื่อมุสลิม ที่ถือว่าประสบความสำเร็จ เรามีเว็บไซต์ www.muslim4health.or.th และวารสารสุขสาระ ที่เป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนการเผยแพร่กิจกรรมทางวิชาการและงานวิจัย เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างสังคมมุสลิมและสังคมไทยทั่วไป” ดร.อิศรา กล่าว

ประธานมูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย กล่าวต่อว่า มูลนิธิฯ ได้รับบริจาคที่ดินในซอยมัสยิดอัตตักวา บนถนนร่มเกล้า เขตมีนบุรี เพื่อไว้ดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานถาวร และจะใช้เป็นศูนย์ต้นแบบกิจการเพื่อสังคม สร้างรายได้หล่อเลี้ยงองค์กรต่อไป ซึ่งต้องขอแรง สสส.เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยง ช่วยตั้งไข่ในระยะเริ่มแรก

“ในส่วนของการทำงาน อยากให้ สสส.เข้ามาสนับสนุนการอบรมเฉพาะเรื่อง เช่น บัญชีการเงิน เลขานุการบริหาร การวิเคราะห์ติดตามผลโครงการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่งานในตำแหน่งนี้ มีอัตราการลาออกสูง หากได้รับการพัฒนาศักยภาพให้มีความเชี่ยวชาญ เชื่อว่าจะช่วยลดปัญหานี้ลงได้” รศ.ดร.อิศรา กล่าวสรุป

ด้าน ทพ.กฤษดา กล่าวว่า สสส.มีความตั้งใจจะผลักดันให้ภาคีต่างๆ สามารถหารายได้หล่อเลี้ยงตนเองได้ โดยการดึงความเชี่ยวชาญของตนออกมาใช้ในรูปแบบของกิจการเพื่อสังคม เรามีสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ที่จะเข้ามาช่วยให้ความรู้และคำปรึกษาได้ นอกจากนี้ สสส.ยังมีสำนักภาคีสัมพันธ์ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือและเชื่อมโยงการทำงานของภาคีต่างๆ ให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เรื่อง: ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน teamcontent www.thaihealth.or.th