เผย 10 ศิษย์เก่าดีเด่น รางวัล “มหิดลทยากร” ปี 51

ชี้เพื่อเชิดชูเกียรติ เป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชนรุ่นใหม่

 

 

 

 เผย 10 ศิษย์เก่าดีเด่น รางวัล “มหิดลทยากร” ปี 51

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 52 สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดลในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงาน 40 ปีแห่งวันพระราชทานนาม มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา  พร้อมมีพิธีมอบรางวัล มหิดลทยากร ให้ศิษย์เก่าดีเด่นที่ได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ จนเป็นที่ยอมรับ ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ  จำนวน 10  คน  ได้แก่ นางกมลทิพย์  หิตะนันท์ รองศาสตราจารย์ ดร.กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล รองศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิงธิดา นิงสานนท์ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ ศิริสันธนะ นายนิคม ไวยรัชพานิช ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์นุกูล ปริญญานุสสรณ์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ปณต มิคะเสน ราชบัณฑิต ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ดร.พรชัย มาตังคสมบัติ ศาสตราจารย์  นายแพทย์อดุลย์  วิริยเวชกุล ราชบัณฑิต และ ศาสตราจารย์ นายแพทย์อุดมศิลป์  ศรีแสงนาม  ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

 

              ศ.พญ.ชนิกา ตู้จินดา  ประธานสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า  สมาคมฯ ได้เล็งเห็นถึงคุณความดีที่ศิษย์เก่าได้ทำประโยชน์ต่อสาธารณชนและสังคม จนเป็นที่รู้จักและยอมรับ โดยการมอบรางวัล มหิดลทยากร เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณผู้ที่มีคุณธรรมและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ และมีกำลังใจในการทำงานต่อไป ที่สำคัญทางสมาคมฯ ต้องการปลูกฝังเยาวชนรุ่นใหม่ๆ ให้นำไปปฏิบัติและเป็นแบบอย่างในการทำงานในอนาคต

 

 

เผย 10 ศิษย์เก่าดีเด่น รางวัล “มหิดลทยากร” ปี 51

                 

              ศ.พญ.ชนิกา กล่าวต่อว่า รางวัล มหิดลทยากร มีการมอบให้ศิษย์เก่าดีเด่นที่ได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนร่วม มาตั้งแต่ พ.ศ.2535 โดยให้กับผู้เคยศึกษาในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์หรือมหาวิทยาลัยมหิดล  อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี  ที่มีความประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรมทั้งส่วนตัวและวิชาชีพ และมีมนุษยสัมพันธ์เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม ประกอบอาชีพประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของสังคม แต่ต้องไม่เป็นข้าราชการประจำ หรือผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล

เผย 10 ศิษย์เก่าดีเด่น รางวัล “มหิดลทยากร” ปี 51

 

ด้านศาสตราจารย์ นายแพทย์อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)  หนึ่งในผู้รับรางวัลในครั้งนี้ กล่าวว่า  รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลที่เป็นเกียรตินี้ เพราะสถาบันการศึกษาที่เคยศึกษาอยู่เป็นผู้ให้ โดยรางวัลนี้จะเป็นแรงผลักดันและเป็นกำลังใจในการทำงานเพื่อสังคมและประเทศชาติต่อไป หลังจากนี้ก็จะตั้งใจทำงานให้หนักขึ้น  เพราะชีวิตการทำงานที่ผ่านมามาเกือบทั้งชีวิต ทำงานด้านนี้มาตลอด จะให้เลิกทำก็คงไม่ได้แล้ว

 

 

 

 

 “การทำงานตามที่ครูบา อาจารย์สั่งสอนมา และตามอุดมการณ์ความมุ่งมั่นของตนเอง จนเป็นที่ยอมรับ และได้รางวัลนี้มา ก็เป็นการยืนยันต่อไปได้ว่า คนเราทำดีย่อมได้ดี และจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อสังคมต่อไป  นายแพทย์อุดมศิลป์ กล่าว

 

 

 

 

 

เรื่องโดย: ณัฐภัทร ตุ้มภู่ team content www.thaihealth.or.th

 

 

update:03-03-52

 

 

 

 

 

 




ข้อมูลผู้ที่ได้รับรางวัล

 

 

 

นางกมลทิพย์   หิตะนันท์ สำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัย จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2505 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลศิริราชฯ ได้ใช้ความรู้ด้านวิชาชีพการพยาบาลปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ อุตสาหะ วิริยะ จนเกิดประโยชน์แก่วิชาชีพ ประชาชน และสังคมตลอดมา เป็นผู้ริเริ่มจัดทำรายการให้ความรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชนในรายการปัญหาชีวิตและสุขภาพ ทาง tv9 ร่วมกับ       นพ.สุรพงษ์ อำพันวงษ์ เป็นประธานออกหน่วยตรวจสุขภาพและให้ความรู้แก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร จ.แม่ฮ่องสอน จัดโครงการหารายได้สมทบทุนสร้างบ้านพักผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ จ.ระยอง จากผลงานดีเด่นส่งผลให้ได้รับรางวัลเกียรติคุณพยาบาลดีเด่นของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ ในสาขาผู้นำในการพัฒนาวิชาชีพ และรางวัลพยาบาลดีเด่นของสภาการพยาบาลในสาขาผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อวิชาชีพและสังคม

 

รองศาสตราจารย์ ดร.กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิต (พยาบาล) เกียรตินิยมและเหรียญทอง และประกาศนียบัตรการผดุงครรภ์ จาก คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2514 จากนั้นได้รับทุนรัฐบาล (ทุน ก.พ.) ศึกษาต่อระดับปริญญาโท และเอกสาขาการพยาบาล     ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยดำรงตำแหน่งคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ 2 สมัย   รองศาสตราจารย์ ดร.กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล เป็นผู้นำที่สำคัญในการพัฒนาคณะพยาบาลศาสตร์ทุกด้านในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะด้านการวิจัย และการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน ในระดับบัณฑิตศึกษา เป็นผู้ร่วมผลักดันให้เกิดโครงการร่วมผลิตบัณฑิตระดับปริญญาเอก สาขาพยาบาลศาสตร์ ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำต่างประเทศ ทำให้มีการจัดการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาพยาบาลศาสตร์ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล   สภาการพยาบาล และสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย ฯ หลายสมัย มีส่วนร่วมในการพัฒนาวิชาชีพการพยาบาลให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันรองศาสตราจารย์ ดร.กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา

 

รองศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ธิดา นิงสานนท์ สำเร็จการศึกษาเภสัชศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2512 m.s.(pharmaceutics) จาก massachusetts college of pharmacy ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2515 เคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล เลขาธิการสภาเภสัชกรรม นายกสภาเภสัชกรรม ได้รับรางวัลเภสัชกรเกียรติคุณจากสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล เป็นผู้นำทั้งด้านความคิดและวิธีปฏิบัติในการพัฒนาระบบการใช้ยาในโรงพยาบาลเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในการใช้ยา ตลอดจนการพัฒนามาตรฐานและสมรรถนะของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม เพื่อให้วิชาชีพเภสัชกรรมมีความเข้มแข็ง ทันสมัย และมีการเจริญเติบโตทางศักยภาพและทักษะในการดูแลผู้ป่วยทางยา อันจะยังประโยชน์ให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ยาของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก

 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ ศิริสันธนะ สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง จาก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2514 และ แพทยศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง จาก คณะแพทยศาสตร์รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2516 ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรรมการแผนกแพทยศาสตร์ มูลนิธิอานันทมหิดล   adjunct professor of epidemiology, johns hopkins university   กรรมการแผนกวิทยาศาสตร์การแพทย์ สภาวิจัยแห่งชาติ   เป็นผู้ริเริ่มศึกษาวิจัยโรคที่ยังไม่มีผู้ใดรายงานมาก่อน อาทิ โรคแอนแทร็กซ์ในช่องปาก (oropharyngeal anthrax) โรคติดเชื้อ   rickettsia   ชนิด   thai tick typhus ตลอดจนเป็นผู้จัดทำรายงานผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้ออื่นๆ เป็นรายงานแรกในประเทศไทย ได้แก่ โรคติดเชื้อ eikenella corrodens โรคติดเชื้อ bacillus cereus และโรคลิ้นหัวใจอักเสบจากเชื้อ corynbacterium diphtheriae เคยได้รับรางวัลผลงานวิจัยระดับดีเยี่ยม สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2543จากสภาวิจัยแห่งชาติ จากการวิจัยเรื่อง โรคติดเชื้อ   penicillium marneffei   ในผู้ป่วยโรคเอดส์”   ได้รับรางวัลผลงานวิจัยเกียรติยศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)ประจำปี 2545 (รางวัลผลงานวิจัยตีพิมพ์ที่ได้รับการอ้างอิงสูงสุด สาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพและการแพทย์) ได้รับทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัย (ทุน เมธีวิจัยอาวุโส) ประจำปี 2546 จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) รางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2547 จากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ   และ รางวัลผลงานวิจัยดีเด่น สกว. ประจำปี 2549

 

นายนิคม ไวยรัชพานิช สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิต (สุขาภิบาล) จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2513 เป็นศิษย์เก่าที่ได้นำองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน อดีตเคยดำรงตำแหน่งรองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้มีส่วนร่วมในการดำเนินนโยบายของกรุงเทพมหานคร พัฒนาพื้นที่สีเขียว ตกแต่งเมือง วางระบบงานสารสนเทศ (mis) ริเริ่มจัดทำโครงการถนนปลอดฝุ่น โครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าชายเลนบางขุนเทียน โครงการลดภาวะมลพิษ การจัดการขยะและสิ่งปฏิกูล การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงาน ตลอดจนโครงการสร้างกรุงเทพมหานครให้ร่มรื่นสวยงามด้วยการปลูกต้นไม้ นอกจากนี้เป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างพิพิธภัณฑ์เด็ก และดำเนินโครงการลานกีฬากรุงเทพมหานคร   ปัจจุบัน นายนิคม ไวยรัชพานิช ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาและรองประธานสภาวุฒิสภา คนที่หนึ่ง

 

ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์นุกูล ปริญญานุสสรณ์ สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต ได้เหรียญทองคะแนนเป็นที่ 1 ตลอดหลักสูตร จาก มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน) ปี 2495 – 2496 เกียรติบัตรสมาชิกราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย และอนุมัติบัตรความรู้ความชำนาญเฉพาะทางศัลยศาสตร์ตกแต่งจากแพทยสภา เคยดำรงตำแหน่งรองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ประธานกรรมการโรงพยาบาลศิริราช ประธานกรรมการบริหารศูนย์พิษวิทยา นายกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย เป็นผู้ก่อตั้งหอผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก (burn unit) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย ตรวจรักษาและผ่าตัดผู้ป่วยโรคศัลยศาสตร์ตกแต่งและไฟไหม้น้ำร้อนลวก ณ โรงพยาบาลศิริราช เป็นเวลากว่า 35 ปี ตลอดจนเป็นผู้นำแผนการรักษาผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวกรวมทั้งวิธีการเก็บและปลูกผิวหนังอย่างได้ผลดียิ่งจากต่างประเทศมาดัดแปลงใช้ในปัจจุบัน และได้ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงเวลาของการผ่าตัดสำหรับเด็กที่เกิดมามีความพิการปากแหว่งเพดานโหว่เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่โรงพยาบาลศิริราช เริ่มตั้งแต่ ปี 2508 โดยไม่ทิ้งไว้จนเด็กโต แต่ทำการผ่าตัดให้เร็วขึ้น โดยทำภายใน 24 – 48 ชั่วโมงหลังคลอด เป็นผลให้เด็กดูดนมได้ทันที หลังทำการผ่าตัดและเป็นผลดียิ่งแก่จิตใจของพ่อแม่ จึงในขณะนี้เราจะไม่เห็นเด็กที่มีความพิการนี้ในที่สาธารณะ ตามถนนหนทางและตลาดดังเมื่อ 30 – 40 ปีก่อน

 

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ   นายแพทย์ปณต   มิคะเสน ราชบัณฑิต สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน) เมื่อปี 2502 เริ่มรับราชการที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่ปี 2506 จนเกษียณในตำแหน่งศาสตราจารย์ระดับ 11 เมื่อปี 2537 มีผลงานวิจัยในเรื่องปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนในเขตชนบท โดยเฉพาะในเรื่องของโภชนาการ พฤติกรรมการกินอาหารและการเกิดโรคพยาธิใบไม้ในตับ โรคมะเร็งตับ สารปนเปื้อนในอาหารซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ดังปรากฏในบทวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ และระดับชาติจำนวน ๑๒๗ เรื่อง เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล outstanding doctor ประจำปี 2533 ในการประชุมใหญ่ the confederation of medical association of asia and oceania ประเทศฮ่องกง ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาแพทยศาสตร์ ประเภทวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ในปี ๒๕๓๕ จนถึงปัจจุบัน และดำรงตำแหน่งประธานสำนักวิทยาศาสตร์ ปี 2548 – 2550 และเป็นประธานสภามนตรี สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี 2535 – 2539

 

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ดร.พรชัย มาตังคสมบัติ เป็นศิษย์เก่าคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2501 – 2502 สำเร็จการศึกษาปริญญา b.a., ph.d., m.d.จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้มีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบการศึกษาวิทยาศาสตร์ของประเทศ ระหว่างดำรงตำแหน่งอธิการบดี 2 สมัยได้ทำให้มหาวิทยาลัยมหิดลพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก จนเป็นที่ยกย่องให้ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ปาล์มส์อะกาเดมิกส์ ชั้นอัศวิน จากประเทศฝรั่งเศส และทำให้มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับ prime minister’s export award 2006 ในฐานะที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศมากที่สุด นอกจากนี้ได้ทำให้มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการจัดอันดับจาก สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา แห่งชาติ (สกอ.) ให้เป็นมหาวิทยาลัยดีเลิศอันดับ 1 ของไทยทั้งด้านการเรียนการสอนและการวิจัย เมื่อเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ภายในประเทศทั้งหมด

 

ศาสตราจารย์   นายแพทย์อดุลย์   วิริยเวชกุล   ราชบัณฑิต สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน) เมื่อปี 2503 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นราชบัณฑิตในวิชาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ สาขาแพทยศาสตร์ ราชบัณฑิตยสถาน ตั้งแต่ปี 2521 เคยดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งได้เป็นผู้ริเริ่มและเป็นประธานการจัดทำระบบคุณภาพ ตามระบบ iso 9002 จนประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการแพทยสภา เลขาธิการแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขาธิการแพทยสมาคมแห่งอาเซียน กรรมการ ก.พ.อ., สมศ., กรรมการอุดมศึกษาของ สกอ. ผู้อำนวยการระบบคุณภาพ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ และคณบดีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ประธานโครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2511,fellowship of the royal college of physicians,edinburgh uk. เคยเป็นรองคณบดีฝ่ายพัฒนาบุคลากร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เลขาธิการพรรคพลังธรรม เคยได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กทม. 3 สมัยติดต่อกัน เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ริเริ่มผลักดันจนสามารถจัดตั้งสถาบันสุขภาพจิต (กรมสุขภาพจิตในปัจจุบัน) และ สถาบันการแพทย์แผนไทย (กรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกในปัจจุบัน), ผู้ก่อตั้งและนายกสมาคมสมาริตันส์-ประเทศไทย (ช่วยคนมีปัญหาชีวิตคิดฆ่าตัวตายทางโทรศัพท์) ได้รับรางวัล สังข์เงินผลงานดีเด่นด้านส่งเสริมสุขภาพพลานามัย, “บุคคลตัวอย่างแห่งปี 2541”, บุคคลยอดเยี่ยมด้านการบำบัดฟื้นฟูและพัฒนาผู้ติดยาเสพติดปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุน สสส., ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าและเครือข่ายลดอุบัติเหตุ, ประธาน asia pacific alcohol policy alliance

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code