เปิดมิติใหม่วัยรุ่นไทย “รักจริงรอได้”
วันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก นับเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ทั่วโลกให้ความสำคัญในการมอบความรักต่อกันตามแบบฉบับที่มีมายาวนาน แต่เนื่องด้วยยุคสมัยที่แปรเปลี่ยน ในบ้านเราวันวาเลนไทน์กลายเป็นวันที่ผู้ใหญ่ในสังคมเชื่อและจับจ้องมองว่าจะกลายเป็นวันเสียสาวของวัยรุ่น
จึงเป็นคำถามที่ตามมาว่าเรื่องเพศและเรื่องรักจะเป็นเรื่องใหญ่ของวัยรุ่น และพวกเขาจะมองเรื่องความรักเป็นความรู้สึก “รักจริงรอได้”หรือไม่?
ทางแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเด็กและเยาวชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของวัยรุ่นที่มีต่อเรื่องเพศสัมพันธ์ภายใต้หัวข้อ “รักจริงรอได้” โดยได้สำรวจสอบถามความคิดเห็นของวัยรุ่น 2,428คน จากหลากหลายภูมิภาค ระหว่างวันที่ 22-27มกราคมที่ผ่านมา พบว่า ในความเป็นจริงแล้ว วัยรุ่นไทยกว่า 80%มองว่า เรื่องความรักเป็นเรื่องใหญ่และไม่คิดว่าเรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญในชีวิตของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวัยรุ่นนั้นเข้าใจและแยกแยะในเรื่องของความรักและเพศสัมพันธ์ออกจากกันได้ ซึ่งเป็นความคิดเชิงบวกที่ดีในการดำเนินชีวิต
เข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเด็กและเยาวชน กล่าวว่า วันวาเลนไทน์นับเป็นอีกวันหนึ่งที่สื่อสนใจ และผู้ใหญ่ก็จ้องมองจนเกิดเป็นวาทกรรมวาเลนไทน์เป็นวันเสียตัวแห่งชาติ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการสื่อสารของผู้ใหญ่ในสังคม นับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมาก เพราะหากเราพูดถึงปัญหาเชิงลบก็จะกลายเป็นการตีตราของผู้ใหญ่ที่มีต่อวัยรุ่น ทั้งๆ ที่จากประสบการณ์การทำงานกับวัยรุ่น เห็นว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ในสังคมไทยยังมีทัศนคติและพฤติกรรมเรื่องความรักและเพศสัมพันธ์ที่เหมาะสม แต่การนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวกับวัยรุ่นและเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมามักจะออกมาในทางตรงกันข้าม เพราะการนำเสนอนั้นมักจะให้ความสำคัญในประเด็นเชิงลบ หรือแม้กระทั่งการบอกเล่าข่าวสาร ละครที่เป็นการยั่วยุในลักษณะอารมณ์ และบางครั้งก็มีการสื่อสารเรื่องเพศที่ผิดๆ ดังนั้นเราต้องเปิดพื้นที่ให้สื่อดีๆ มากขึ้น
“จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราสร้างทัศนคติเชิงบวกได้ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขมากกว่าการสร้างบล็อกหรือตีตราไว้ ยกตัวอย่างเช่นในครอบครัว หากเราบอกเด็กว่าอย่าทำน้ำหก เด็กก็จะทำน้ำหกทันที เพราะเกิดความกลัวจากการห้ามของผู้ใหญ่เอาไว้ กลายเป็นการชี้นำทางความคิด หากเราเชื่อว่าไม่เหลือเด็กดี สังคมก็ก้าวสู่ในทิศทางนี้”คุณเข็มพรกล่าว
ด้าน ณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ กล่าวว่า คำพูดที่มีการพูดติดปากเสมอว่าในวันวาเลนไทน์จะกลายเป็นวันเสียตัวนั้น จากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ในช่วงเทศกาลนี้ขนาดนั้น โดยวัยรุ่น 4 ใน 5 มองว่าเรื่องความรักเป็นเรื่องใหญ่ และไม่คิดว่าเรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญในชีวิต นั่นหมายความว่าวัยรุ่นมองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องคิดให้เยอะ และมองให้ยาว ซึ่งถือว่าสวนทางกับสิ่งที่ผู้ใหญ่หวาดกลัว และด้วยความที่เด็กๆ สมัยนี้อยู่ในระบบการศึกษาที่ค่อนข้างยาวกว่าจะแต่งงาน ทำให้เกิดโอกาสเสี่ยงต่อเรื่องเพศยาวนานขึ้น ดังนั้นก็ต้องมาดูว่าเราจะช่วยเหลือเด็กได้อย่างไร เพื่อห้ามใจกับเรื่องนี้ จึงจำเป็นอย่างมากที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่เด็กๆ ในหลายประเทศมีการตั้งโปรแกรมห้องเรียนพ่อแม่ แต่ในประเทศไทยยังไม่มี มีก็เพียงเป็นหน่วยงานของภาคเอกชนที่ทำอยู่ ซึ่งยังขาดความทั่วถึง ดังนั้นหากเป็นนโยบายรัฐได้ก็จะถือเป็นการช่วยเหลือพ่อแม่ได้อย่างดี หรือในโรงเรียนเองก็ต้องมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่เป็นมุมมองในเชิงบวก รวมทั้งเรื่องของการดูแลสุขภาพผนวกรวมเข้าไปด้วย ตลอดจนการสร้างบรรยากาศทางสังคม หากชุมชนรอบๆ เด็กเติบโตมาด้วยการเห็นผับบาร์ คาราโอเกะที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นจะทำอย่างไรให้เกิดการจัดโซนนิ่งที่เหมาะสมได้
“เราจะเห็นว่าการห้ามใจไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ เลย 1.ต้องมองว่าเด็กไทยมีค่านิยมที่อยากรอวันที่พร้อม 2.ท่ามกลางความรอได้ จำเป็นต้องช่วยเด็ก เพราะเวลามันยาวนานเหลือเกิน ดังนั้นเราต้องถามตัวเองในฐานะเป็นผู้ใหญ่จะช่วยเด็กได้อย่างไร ซึ่งเราต้องเปิดใจ ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเด็กๆ ถูกสื่อที่เป็นการนำเสนอความกลัวของผู้ใหญ่ทำให้เขาเริ่มคิดว่าจะวางตัวอย่างไร กลายเป็นการสร้างบล็อกทางความคิด ซึ่งจากประสบการณ์เห็นว่า 10 ปีที่ผ่านมาเมื่อถึงวันวาเลนไทน์เราก็จะมีการนำเสนอแต่ว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันที่เด็กต้องเสียตัว เรามีแต่การนำเสนอข่าวเรื่องนี้ในเชิงลบ จี้ซ้ำย้ำๆ อยู่ตลอดเวลา จริงๆ เราควรเอาความกลัวนี้เก็บไว้ เพราะหากกลัวเด็กมีเซ็กซ์ ติดโรค ก็ควรใส่ข้อมูลที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยให้เด็กปลอดภัย”ณัฐยากล่าว
ขณะที่เสียงของเด็กๆ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ย้ำความจริงกับเรื่องนี้ โดยตัวแทนเยาวชน อย่างนายจตุพล แคนมืด หรือน้องต้น จากโรงเรียนศึกษานารี บอกว่า ความรักเป็นสิ่งสวยงาม การรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก็คือช่วงเวลาที่เราสามารถเลี้ยงดูตนเองได้แล้ว เมื่อถึงวันแต่งงานหรือวันที่เราพร้อมมีลูกการมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ก็จะกลายเป็นความรักที่สมบูรณ์ เพราะความรักเป็นสิ่งจีรังยั่งยืน แต่เรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเพียงสัญชาตญาณ ความใคร่ซึ่งอยู่คนละส่วนกัน อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าปัจจัย 3 สิ่งที่มีความสำคัญทำให้วัยรุ่นเกิดการมีเพศสัมพันธ์ได้คือ 1.เวลา 2.โอกาส และ 3.สถานที่ ดังนั้นเราต้องมีสติและต้องไม่ให้ปัจจัยสามสิ่งนี้ครบ
หันมาที่ด้านครอบครัว มีการพบว่าเสียงสะท้อนของวัยรุ่นที่ต้องการปรึกษาเรื่องเพศสัมพันธ์นั้น ร้อยละ 59 ต้องการขอคำปรึกษาจากพ่อแม่เป็นหลัก และยังพบว่าเด็กส่วนใหญ่ในครอบครัวที่อบอุ่นมองเรื่องความรักเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องที่รอได้
ฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว บอกว่า คำว่าครอบครัวที่อบอุ่น ความจริงแล้วไม่ได้จำเป็นว่าอยู่ที่โครงสร้างที่ครอบครัวคือมีพ่อมีแม่ครบ แต่อยู่ที่บริบทด้วย เพราะบางครอบครัวขาดพ่อหรือแม่ไปคนใดคนหนึ่งก็สามารถเป็นครอบครัวที่อบอุ่นได้ เพราะการเป็นพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยวก็สามารถทำให้ครอบครัวอบอุ่นได้ เรื่องเพศเป็นเรื่องที่ทุกครอบครัวต้องพูดคุยกับลูกได้ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวแบบใดก็ตาม เราสามารถสื่อสารความสัมพันธ์ให้ลูกได้ หากสามารถเกี่ยวกับสร้างบทบาทนี้ได้ ลูกก็จะเกิดความเข้าใจ ที่สำคัญพ่อแม่เองต้องสำรวจทัศนคติเรื่องเพศว่ามีมุมมองความเชื่ออย่างไร หากยังมีความเชื่อผิดๆ หรือกรอบความเชื่อเดิมๆ ที่เรื่องเพศเป็นเรื่องที่ไม่สมควรพูดคุย การสื่อสารเพื่อทำความเข้าใจกับลูกก็จะกลายเป็นเรื่องยาก ดังนั้นพ่อแม่ต้องมองเรื่องนี้ในเชิงบวก ทำให้เด็กไว้ใจ เด็กก็จะปรึกษากับพ่อแม่ได้มากที่สุด
“สถานการณ์ครอบครัวไทยสูงมากที่กลายเป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว แต่สิ่งสำคัญคือบริบทในครอบครัว ยังยืนยันว่าหากทุกคนเปิดใจกว้างกับลูก สำรวจทัศนคติของตนเองว่ามองเรื่องเพศสัมพันธ์เป็นอย่างไร หากปรับทัศนคติในเชิงบวกได้ก็จะส่งผลดีต่อเด็ก เราต้องเปิดใจพูดคุยกับลูกและให้ความรู้การดูแลตนเอง การป้องกันและการจัดการปัญหาไปพร้อมๆ กัน”ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัวบอก
ในปีนี้มิติผลโพลล์ที่ทางแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเด็กและเยาวชนนำมาเสนอ เป็นการเปิดมิติใหม่ที่สวนกระแสกับผลโพลล์จากหลายสำนักที่ตอกย้ำและซ้ำเติมเสมอว่า วาเลนไทน์คราใด เด็กไทยก็พร้อมจะเสียตัว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะทำให้ผลโพลล์ในปีต่อไป ลบภาพวาเลนไทน์คือวันเสียตัว
เรื่องโดย : สุนันทา สุขสุมิตร Team content www.thaihealth.or.th