เต้นทำลายโซ่ตรวน ปลุกสังคมไทยไม่ยอมรับความรุนแรงต่อผู้หญิง
เครือข่ายสตรีปลุกหญิงไทยอย่ายอมจำนน จัดกิจกรรมเต้นทำลายโซ่ตรวน สัญลักษณ์ต่อต้านความรุนแรง วันสตรีสากล ชี้ความรุนแรงคือภัยเงียบคุกคามเด็ก-ผู้หญิง เฉลี่ยถูกทำร้ายต้องเข้า รพ. 62 ราย/วัน ปลุกสังคมไม่ยอมรับความรุนแรงต่อผู้หญิง
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม เวลา 10.00 น.ที่สวนสันติชัยปราการ ถ. พระอาทิตย์ กรุงเทพฯ แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมมือกับเครือข่ายองค์กรผู้หญิง 14 องค์กร ในนาม “เครือข่ายรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง” จัดกิจกรรมรณรงค์ “หนึ่งพันล้านเสียง ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง” ขึ้น เนื่องในวันสตรีสากล (8 มีนาคม) โดยมี ดร. ประกาศิต กายะสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สสส. และดร. ผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 คน
ดร. ประกาศิต กล่าวว่า ความรุนแรงต่อผู้หญิง ทั้งความรุนแรงในครอบครัว และความรุนแรงทางเพศ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเปรียบเสมือนภัยเงียบที่คุกคามการใช้ชีวิตของผู้หญิง โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในบ้าน ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว จึงไม่ค่อยเป็นที่รับรู้ของสังคม และยากในการป้องกันและแก้ไขปัญหา สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจากสำนักบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า สถิติผู้มารับบริการที่ศูนย์พึ่งได้ พ.ศ. 2554 มีเด็กและสตรี ที่ถูกกระทำรุนแรงที่มารับบริการจำนวนทั้งสิ้น 22,565 ราย แบ่งเป็นเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง 11,491 ราย สตรีที่ถูกกระทำรุนแรง 11,074 ราย เฉลี่ยมีผู้หญิงและเด็กถูกทำร้ายจนถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล เฉพาะในโรงพยาบาลของรัฐ 62 ราย/วัน โดยผู้กระทำความรุนแรงส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิด สามี หรือคนในครอบครัวมากถึง 80% และยังมีความรุนแรงที่ไม่ปรากฏเป็นข่าว หรือไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีมากกว่าสถิติที่ปรากฏเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคนในสังคมไทยจำนวนไม่น้อย ยังมองว่า ปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงและความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาส่วนตัว หรือเป็นเรื่องภายในครอบครัวที่สังคมควรไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว และไม่จำเป็นต้องร่วมรับผิดชอบ
ด้าน น.ส.วราภรณ์ แช่มสนิท ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงฯ สสส. กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ระดับโลก ที่มีชื่อเรียกว่า One Billion Rising for Justice ที่จัดโดยองค์กร V-Day ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยนักกิจกรรมจากทั่วโลกจะออกมารวมตัวกันในวันแห่งความรักเพื่อร่วมกันเต้นเพลงที่มีเนื้อหาต่อต้านความรุนแรง และสื่อถึงพลังและคุณค่าของผู้หญิง
“การรณรงค์นี้ริเริ่มโดยศิลปินนักเขียนบทละคร ที่เคยเขียนบทละครเพื่อปลุกให้ผู้หญิงกล้าลุกขึ้นมาพูดเรื่องเพศของตัวเอง พอมาถึงการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงครั้งนี้ จึงใช้แนวคิดที่ใช้ศิลปะ คือ เพลงและการเต้น มาเป็นสื่อรณรงค์เพื่อดึงให้คนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยใช้เพลง Break the Chain เป็นเพลงสำหรับการเต้นรณรงค์ และเครือข่ายรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง ได้นำมาแปลเป็นภาษาไทย ให้ชื่อเพลงว่า ทำลายโซ่ตรวน
“การชวนคนออกมาเต้นในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นไฮไลต์ของการรณรงค์ครั้งนี้ เป็นการสื่อว่าเราไม่ยอมรับความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก เป็นการยืนยันว่าคนทุกคนมีสิทธิเหนือร่างกายตนเอง และคนทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก ต้องได้รับการคุ้มครองให้สามารถมีชีวิตที่ปลอดภัยและไม่ถูกทำร้าย” ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิง สสส. กล่าว
นางดรุณี สิถิระบุตร ประธานชมรมเติมใจให้กัน เทศบาลตำบลปริก อ.สะเดา จ.สงขลา อีกหนึ่งเสียงจากเวที “เสียงของผู้หญิง” (Women’s Voices) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ครั้งนี้ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้หญิงที่ถูกกระทำความรุนแรงจำนวนมากในสังคมไทย โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในบ้าน ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่สามารถก้าวข้ามประสบการณ์ที่เคยถูกใช้ความรุนแรงในอดีต ตนอยากให้ผู้หญิงเชื่อมั่นในตนเอง ตั้งสติ และเดินออกมาจากความรุนแรงให้ได้ เพราะเราไม่ใช่สมบัติของผู้ชาย อย่ากลัว หรืออายว่าสังคมจะตอกย้ำว่าอะไร และอย่ายอมถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำอีก ขอให้ลุกเดินออกมาใช้ชีวิตที่ปราศจากความรุนแรง
ในปี 2556 ที่ผ่านมา มีประเทศต่าง ๆ จำนวนถึง 207 ประเทศ ที่จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงในรูปแบบเดียวกันนี้พร้อมกันทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมการจัดงานในระดับสากลได้ที่ www.onebillionrising.org
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข