เตือน ‘อ้วน’ ทำ ‘สมอง’ เล็กลง

เสี่ยงโรคสมองแก่และอัลไซเมอร์

 

เตือน ‘อ้วน’ ทำ ‘สมอง’ เล็กลง          พิตส์เบิร์ก : นักวิจัยสหรัฐศึกษาพบคนอ้วนหรือมีน้ำหนักสูงกว่าเกณฑ์มีขนาดสมองเล็กกว่าคนผอมและน้ำหนักตัวปรกติ นอกจากนี้อายุสมองยังแก่เร็วกว่า และเสี่ยงสูงกว่าที่จะเป็นโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์

 

          นักวิจัยมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์กในมลรัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐ ศึกษาพบสิ่งที่น่าตกใจโดยเฉพาะในภาวะที่โรคอ้วนคุกคามไปทั่วโลกในปัจจุบัน โดยนักวิจัยพบว่าคนอ้วนและมีน้ำหนักสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานมีขนาดสมองเล็กกว่า สมองแก่เร็วกว่า และมีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะเป็นโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์เมื่อเทียบกับผู้มีรูปร่างผอมบาง

 

          ในการศึกษานักวิจัยเปรียบเทียบสมองจากการสแกนประชาชนวัย 70 ปีที่เป็นคนอ้วน น้ำหนักสูงกว่าเกณฑ์ และคนมีน้ำหนักตัวปรกติรวมจำนวน 94 คน ผลที่ได้พบว่าคนอ้วนมีเนื้อเยื่อสมองน้อยกว่าโดยเฉลี่ย 8% และสมองแก่เร็วก่อนเวลาอันควรถึง 16 ปี ขณะที่ผู้มีน้ำหนักสูงกว่าเกณฑ์มีเนื้อเยื่อสมองน้อยกว่า 4% และอายุสมองแก่เร็วกว่าคนมีน้ำหนักปรกติ 8 ปี

 

          ทั้งนี้ คนอ้วนสูญเสียเนื้อเยื่อสมองบริเวณกลีบด้านหน้าและขมับ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่ทำงานด้านความจำและการวางแผน อีกทั้งยังพบว่าสมองในพื้นที่อื่นๆก็ลดลงไปด้วย เช่น สมองส่วนที่ทำหน้าที่เรียนรู้ จัดการข้อมูล ความจำระยะยาวและการเคลื่อนไหว

 

          ศาสตราจารย์พอล ธอมป์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา และเป็นหนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า การสูญเสียเนื้อเยื่อสมองเป็นปริมาณมาก และการที่สมองมีพื้นที่เก็บความทรงจำน้อยลง ทำให้เสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคความจำเสื่อมและโรคอื่นๆที่กระทบต่อสมอง อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ ธอมป์สัน กล่าวว่า สามารถลดความเสี่ยงดังกล่าวได้หากบริโภคอาหารที่มีประโยชน์และควบคุมน้ำหนักร่างกาย

 

          อนึ่ง ปัจจุบันมีประชาชนที่เข้าข่ายอ้วนเป็นจำนวนมาก โดยจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (who) พบว่าทั่วโลกมีคนอ้วนอยู่มากกว่า 300 ล้านคน และผู้มีน้ำหนักสูงกว่าเกณฑ์ประมาณ 1,000 ล้านคน เดิมเป็นที่ทราบกันว่าคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงกว่าปรกติที่จะเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวานประเภท 2 และโรคความดันโลหิตสูง เวลานี้นักวิจัยเพิ่มให้อีกอย่างว่า อ้วนแล้วยังเสี่ยงทำให้สมองหดตัวและกลายเป็นอัลไซเมอร์ได้

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้

 

 

update 01-09-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code