เตือนโรคมือเท้าปากระบาด

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) ชี้แจงสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันว่า ไม่พบผู้เสียชีวิต โดยในปี 2554 พบผู้ป่วยแล้วประมาณ 900 รายซึ่งไม่มีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนใหญ่จะพบในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี พบมากที่สุดในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนและเปิดภาคการศึกษา โอกาสที่จะพบผู้ป่วยและการระบาดของโรคเพิ่มมากขึ้น จึงควรมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

โรคมือเท้าปากเกิดจากเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งโอกาสน้อยที่จะพบการติดต่อจากอาหารหรือน้ำ อาการของโรคจะมีไข้สูง 1-3 วัน มีตุ่มพุพอง สามารถหายเองได้ใน 7 วัน เว้นแต่บางรายที่มีภาวะแทรกซ้อนอาจเสียชีวิตได้

การป้องกันโรค คร.ดำเนินการผ่านโครงการศูนย์เด็กเล็กปลอดโรค โดยแจ้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้น หากพบเด็กป่วยจะต้องวินิจฉัยด้วยความรวดเร็ว แยกเด็กด้วยการให้หยุดเรียนเพื่อลดการแพร่ระบาด รวมทั้งจัดสุขาภิบาลที่ดี เนื่องจากตามปกติเชื้อไวรัสชนิดนี้ไม่สามารถอยู่ได้นานในสภาพอากาศปกติ จึงใช้น้ำยาทำความสะอาดกำจัดเชื้อได้หมด

ศูนย์เด็กเล็กปลอดโรคไม่เพียงเฝ้าระวังเฉพาะโรคมือเท้าปาก ยังดูแลโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ และปอดบวม โรคทางเดินอาหารอุจจาระร่วง และอาหารเป็นพิษและโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน แต่เด็กไทยยังไม่ได้รับวัคซีนเพราะไม่ได้อยู่ในโปรแกรมวัคซีนพื้นฐาน เช่น อีสุกอีใส

ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือ ไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังพบในอัตราที่ไม่มากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ไม่น่าจะเกินร้อยละ 10 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2554 พบผู้ป่วย 9,027 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย ที่น่าห่วง คือ ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง อาทิ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังยังพบอัตราตายและโรคแทรกซ้อนสูง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้กลุ่มนี้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคต่อในปี 2554 ซึ่งได้ดำเนินการจัดเตรียมไว้ประมาณ 2 ล้านโด๊ส

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

Shares:
QR Code :
QR Code