เกาะติดมวลน้ำ พร้อมรับอุทกภัย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
สมาคมปลอดภัยไว้ก่อน และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชวนเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยควรปฏิบัติ
สถานการณ์น้ำในประเทศไทยยังต้องเฝ้าระวังและเกาะติดผลกระทบจากมวลน้ำ หลายจังหวัด หลายชุมชนริมน้ำเผชิญน้ำท่วมสูง ขณะที่ฝนยังตกต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้น้ำท่วมขังรอการระบายเต็มถนนสายหลักทั่วเมืองเชียงใหม่ ทั้งบริเวณกาด หน่วยราชการ สถาบันการศึกษา โบราณสถานสำคัญ และพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งเชียงใหม่ถูกจัดเป็นเมืองน่าเที่ยวมากสุดอันดับ 2 ของโลกในปี 2559 จากนิตยสาร Travel and Leisure ของสหรัฐอเมริกา ตัวเมืองกลายเป็นคลองระบายน้ำ ฝนตกน้ำท่วมชั่วพริบตาสูงถึง 20-30 เซนติเมตร ประชาชนเดือดร้อน จราจรติดหนัก และขยะลอยมาตาม น้ำมา
สำหรับจังหวัดภาคเหนืออื่นๆ รวมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ประสบภัยจากน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งไหลลงมาจากเนินเขาเข้าท่วมเส้นทางสัญจรและบ้านเรือนประชาชน ปริมาณน้ำมากและไหลเร็วรุนแรง ภาคใต้หลายจังหวัดฝนตกหนักยาวนาน โดยเฉพาะจังหวัดสตูล ฝนตกต่อเนื่องกว่า 20 ชั่วโมง พื้นที่เป็นแอ่งกระทะ พื้นที่รับน้ำเผชิญสภาพน้ำท่วมสูง ส่งผลน้ำท่วมขยายวงกว้างหลายพื้นที่
เมืองกรุงเทพฯ ไม่ต้องพูดถึง ฝนตกต่อเนื่อง มาตามนัดช่วงเย็นย่ำหลังเลิกงาน ส่งผลให้การจราจรติดขัดสาหัส โรงเรียนหลายแห่งประกาศปิดชั่วคราว ท่วมขังครึ่งล้อ กทม.ฝนตกต่อเนื่อง จราจรติดขัดสะสม คนเมืองชาชิน
กล่าวได้ว่า เดือนสิงหาคมประเทศไทยเข้าสู่ "ฤดู…รอการระบายน้ำ" อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะปีนี้ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากปรากฏ การณ์ลานีญาลากยาวตั้งแต่ปี 2559-2560 และต้องเฝ้าระวังมีโอกาสเจอพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงนี้ถึงเดือนพฤศจิกายน ผลจากความแปรปรวนของสภาวะอากาศโลกเปลี่ยนแปลง หลายหน่วยงานประกาศประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องและยาวนาน เตรียมพร้อมในการเดินทางและการจราจร ที่สำคัญพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อลดอุบัติเหตุและมีผลกระทบกับบุคลรอบข้าง
สมาคมปลอดภัยไว้ก่อน และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชวนเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยควรปฏิบัติดังนี้ 1.ติดตามข้อมูลสภาพอากาศและปริมาณน้ำในพื้นที่ การพยากรณ์อากาศ ประกาศเตือนภัย ระดับการขึ้นลงของน้ำในแม่น้ำลำคลอง ระดับน้ำทะเลหนุน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย และพร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด 2.สังเกตสัญญาณความผิดปกติ ทางธรรมชาติ ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น น้ำในลำน้ำมีสีขุ่น หรือเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับสีดินภูเขา ฝนตกหนักต่อเนื่อง มีเสียงดังอื้ออึงมาจากป่าต้นน้ำให้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จะได้เตรียมพร้อมรับมือและอพยพหนีภัยได้ทันท่วงที
3.จัดเตรียมเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ใช้ในช่วง น้ำท่วม (ถุงยังชีพ) เครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค เอกสารสำคัญ (ใส่ถุงพลาสติกและซองกันน้ำ) โดยจัดวางในบริเวณที่สามารถนำติดตัวไปได้ทันทีที่ต้องอพยพ 4. ป้องกันน้ำท่วมบ้าน กำจัดขยะมิให้อุดตันท่อน้ำ ทางระบายน้ำ กำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้โดยสะดวก พร้อมนำกระสอบทรายมาจัดวางเป็นแนวคันกั้นน้ำ หรือเสริมคันดินรอบบริเวณบ้าน
กรณีที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ ควรปฏิบัติดังนี้ 1.ควรเดินด้วยความระมัดระวัง และสวมรองเท้า เพราะอาจมีบ่อ หลุม ฝาท่อเปิด สิ่งของแหลมคมอยู่ใต้น้ำ หรือสัตว์มีพิษอยู่บนผิวน้ำ และควรมีไม้นำทาง เวลาเดินทางไปยังที่ต่างๆ จะทำให้ปลอดภัยขึ้น 2.อพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยก่อน ให้ความช่วยเหลือเด็กและผู้สูงอายุเป็นอันดับแรก พร้อมปฏิบัติตามแผนอพยพหนีภัยไปยังที่ปลอดภัย 3.ไม่อพยพไป ตามเส้นทางที่เป็นทางไหลของน้ำ หลีกเลี่ยงการเดินข้ามลำน้ำที่มีระดับน้ำสูงเหนือเข่าและมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว เพราะอาจถูกน้ำพัดพา และอาจได้รับอันตรายจากท่อนไม้ หรือก้อนหินที่ลอยมาตามน้ำ
คนไทยต้องรับและปรับตัวอยู่กับน้ำ สถาน การณ์ที่เกิดขึ้นมีทั้งคาดไม่ถึง รวดเร็ว รุนแรง และเนิ่นนาน ฉะนั้นทุกคนมีหน้าที่ต้องเรียนรู้ เผชิญสถานการณ์ และแก้ไขอย่างมีสติ เครือข่ายออนไลน์กลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่สำคัญในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ทั้งจริงและลวง จึงต้องพิจารณาและตรวจสอบข้อมูลที่มาในโลกออนไลน์ให้ชัดเจน ทำ ให้รับสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง