อยากสร้างสังคมสุขภาวะ ต้องเท่าทันโรคไม่ติดต่อ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
แฟ้มภาพ
พฤติกรรมใหม่ของคนในปัจจุบัน นำโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมาสู่ตนเอง เพียงเพราะพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงให้มีโรคที่สร้างความ เจ็บป่วยได้มากขึ้น การมีความรู้เท่าทัน มีความรอบรู้เรื่องสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาของการเกิดโรคไม่ติดต่อทั้งหลายนี้
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ได้แถลงข่าวมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 11 พ.ศ.2561 ภายใต้แนวคิด "รู้เท่าทันสุขภาพ ร่วมสร้างสังคมสุขภาวะ" โดยที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มีฉันทามติส่งเสริมให้คนไทยมีความรอบรู้ ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
"ปัจจุบันในสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลง แม้ว่าโรคไม่ติดต่อเรื้อรังจะเกิดจากพฤติกรรมเฉพาะบุคคล แต่หากอยู่ในกลุ่มสังคมที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน เช่น กลุ่มเพื่อนที่ชอบกินเยอะ ๆ ก็จะชวนกันอ้วน โรคที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลก็แสดงออกมามากขึ้น จึงเป็น ที่มาของการแก้ปัญหาที่ต้องอาศัยความร่วมมือกัน" นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ประธานอนุกรรมการดำเนินการประชุมคณะที่ 2 และ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. กล่าวว่า เพราะประชาชนมีความสามารถในการจัดการตนเองที่ไม่เหมือนกัน แต่หาก อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพที่ดี ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกัน ดังนั้นจึงต้อง มีมาตรการทางกฎหมาย มาตรการทาง สิ่งแวดล้อม มาตรการทางสังคม รวมทั้งความรู้ในการใช้ชีวิตที่ต้องเพิ่มมากขึ้น เมื่อความรอบรู้และโรคไม่ไม่ติดต่อเรื้อรังมาเป็นเรื่องเดียวกัน โดยใช้กลไกของการจัดการทางสังคมจะช่วยให้มาตรการนี้ประสบความสำเร็จ และทำให้ประชาชน ในสังคมไทยทุกกลุ่มวัยมีสุขภาพที่ดีขึ้น
"75% ของคนไทยเสียชีวิตจากโรค ไม่ติดต่อเรื้อรังต่อปี โดยมีสาเหตุเกิดมาจาก 4 พฤติกรรมเสี่ยงของคนคือ 1.ดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ 2.สูบบุหรี่ 3.กิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ และ 4.ทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของ สสส. ที่ทำงานในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง" ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา รักษาการอำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เล่าต่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดีต่อสุขภาพของตน แต่ไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพราะมักจะใช้ความรู้สึกในการตัดสินมากกว่าเหตุผล ไม่สามารถเอาชนะความอยาก ความคุ้นชิน และความรู้สึกของตนเองได้ และในที่สุดตนมักจะเลือกทำในสิ่งที่คุ้นเคย ทั้งนี้ความรอบรู้ด้านสุขภาพมีเพื่อป้องกันและแก้ไขโรคไม่ติดต่อ โดยหัวใจของการขับเคลื่อนเรื่องของความรอบรู้สุขภาพคือระดับของการเข้าถึงข้อมูล เพราะถึงแม้ว่าปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้มากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าข้อมูลไหนจริงหรือเท็จ และไม่สามารถตัดสินใจเรื่องถูกผิดได้ ความรอบรู้ต่อสุขภาพจะดีที่สุดก็ต่อเมื่อสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทิศทางที่ดีต่อสุขภาพและนำไปบอกต่อ เพื่อเปลี่ยนให้คนรอบข้างมีความรอบรู้ได้
"สี่โรคไม่ติดต่อหลักที่พบบ่อย ได้แก่ โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน เป็นโรคที่เกิดจากความสุข เพราะเมื่อเราทำงานหนักก็ต้องการที่จะรับประทานของอร่อย ซึ่งของอร่อยมักจะไม่ดีต่อสุขภาพเนื่องจากมีความหวานเกินไป มันเกินไป และเค็มจนเกินไป รวมถึงหากทำงานเหนื่อยมาทั้งวันหากจะให้ไป วิ่งออกกำลังกายก็จะรู้สึกขี้เกียจ จึงเลือกที่จะนั่งเล่นเกม เล่นโซเชียลมีเดีย ทำให้ความสุขส่วนเกินไม่ได้รับการขับออก" ดร.ณัฐพันธุ์ เล่าต่อว่า ทั้งหมดนี้เกิดจากพฤติกรรมที่สามารถเลี่ยงได้ทั้งหมด แต่ทำได้ยาก ดังนั้นผู้ที่มีความรอบรู้สุขภาพที่แท้จริงจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรม ของตนเองได้ด้วย
ทั้งนี้การทำงานเพื่อรณรงค์ในเรื่องของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสิ่งที่ สสส. ทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการมีความรู้ เท่าทันสุขภาพเพื่อป้องกันและแก้ไขโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สามารถทำได้หากเรา ทุกคนหันมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตนเองด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ พักผ่อนให้ เพียงพอ เพื่อให้ตนเองมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และนำความรู้นั้น ๆ ส่งต่อไปยังคนใกล้ตัวเพื่อสร้างสังคมสุขภาวะที่ดี