สสส. แนะผู้ปกครองปรับทัศนคติเรื่องเพศให้เป็นเชิงบวก

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะผู้ปกครองปรับทัศนคติเรื่องเพศให้เป็นเชิงบวก ปรับตัวให้เป็นที่ปรึกษาที่ดีแก่บุตรหลาน เพื่อช่วยลดจำนวนวัยรุ่นติดเชื้อเอดส์และท้องไม่พึงประสงค์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง

นางสาวณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ สำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการสำรวจเยาวชนอายุระหว่าง 9-18 ปี ในพื้นที่ 5 จังหวัดที่เป็นจังหวัดใหญ่พบว่าเยาวชนไทยขาดความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์เชิงบวกในด้านการป้องกันโรคอย่างมาก คือ ร้อยละ 65 หรือ 2 ใน 3 ของเยาวชนทั้งหมด แม้รู้ว่าเพศสัมพันธ์คืออะไร แต่ไม่รู้วิธีการป้องกันการตั้งครรภ์และการป้องกันโรคจากเพศสัมพันธ์ ซึ่งส่วนที่ไม่รู้เกือบทั้งหมดเป็นเพศชาย ขณะที่เยาวชนที่รู้เรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีเพียงร้อยละ 35 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง

โดยรู้จักการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดมากที่สุด รองลงมาคือถุงยางอนามัย และยาฉีดคุมกำเนิด ซึ่งแม้เพศหญิงจะรู้เรื่องถุงยางอนามัยแต่เพศชายที่ส่วนใหญ่ไม่รู้และไม่ยอมใช้ ทำให้เกิดปัญหาการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับกลุ่มประชาชนทั่วไปในขณะนี้ และพบการตั้งครรภ์ในเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี มากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย

แม้ สสส. จะร่วมกับสถานศึกษาให้ความรู้เชิงบวกด้านเพศศึกษามานานถึง 5 ปี แต่กลับพบว่าคนที่เด็กอยากปรึกษาเรื่องเพศมากที่สุดคือผู้ปกครอง แต่ไม่กล้าปรึกษาเพราะผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังมีทัศนคติด้านเพศในเชิงลบ ดังนั้นจึงแนะผู้ปกครองที่อยากให้บุตรหลานปลอดภัยจากปัญหาเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์

ควรเร่งปรับเปลี่ยนทัศนคติด้านเพศของตัวเองตั้งแต่วันนี้ เริ่มพูดคุยกับบุตรหลานด้านเพศไม่เฉพาะแค่การมีเพศสัมพันธ์แต่ควรสร้างความใกล้ชิด ด้วยการพูดคุยถึงแนวคิดด้านความรักและการแสดงความรักแก่บุตรหลานด้วย เพื่อสร้างความไว้ใจแก่บุตรหลานให้กล้าเข้าหาและเลือกปรึกษาผู้ปกครองเป็นคนแรกที่เกิดปัญหาด้านความรักและเพศสัมพันธ์ เชื่อว่าหากสถาบันครอบครัวมีความคิดเรื่องเพศเชิงบวกจะช่วยให้ปัญหาปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และจำนวนผู้ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นลดลงได้อย่างรวดเร็ว

 

ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

Shares:
QR Code :
QR Code