สสส.เปิดโครงการปฎิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม99วัน

แก้ปัญหาขยะลดเมือง

          เปิดตัว”โครงการปฎิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม” ชู 99 วัน พลิกโฉมเชียงใหม่เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน เน้นจัดการ 3 ปัญหาหลัก ขยะล้นเมือง น้ำเสีย เกษตรอินทรีย์ ดึงภาคประชาสังคม  หน่วยงานรัฐ  สถาบันการศึกษา ประชาชนร่วมในปฎิบัติการ

 

สสส.เปิดโครงการปฎิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม99วัน

          นายณัฐพงษ์ จารุวรรณพงศ์ ผู้จัดการโครงการปฎิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชี้แจงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับปฎิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม แก่สื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนมีพิธีเปิดตัวโครงการฯวันนี้ ( 31 ม.ค.) ว่า ปฎิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม เป็นแนวทางที่จะทำให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ใน 99 วันของปฎิบัติการครั้งนี้ จะจัดการกับ 3 ปัญหาหลัก คือ ปัญหาขยะล้นเมือง ปัญหาน้ำเสีย และปัญหาด้านเกษตรอินทรีย์ อย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมกับความรู้ทางวิชาการที่มีอยู่ให้เกิดเป็นระบบจัดการที่ดี ให้เชียงใหม่เป็นเมืองตัวอย่างในการพัฒนาเพื่อพลิกโฉมให้เป็นต้นแบบเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน

 

          โครงการฯได้รวบรวมข้อมูลผ่านกระบวนการตรวจสอบสุขภาพเมืองพบว่า ปัจจุบันเชียงใหม่ประสบปัญหา 3 ประการ คือ ปัญหาขยะล้นเมือง เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีปริมาณขยะเฉลี่ยต่อคนต่อวันมากที่สุดในประเทศไทย สูงถึง 320 ตันต่อวัน ต้องใช้งบประมาณในการจัดการกว่า 200 ล้านบาทต่อปี ส่วนปัญหาน้ำเสีย ณ ปัจจุบันคุณภาพน้ำโดยเฉลี่ยหลายจุดของเมืองเชียงใหม่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน 4 – 5 เท่า เพราะน้ำที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำไม่ได้รับการบำบัดอย่างถูกวิธี และปัญหาเกษตรอินทรีย์ เป็นสิ่งที่ต้องเร่งจัดการเพราะพบว่าเกษตกรในเชียงใหม่มีอัตราการใช้สารเคมีในการทำเกษตรสูงกว่า 80%

 

          นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จากสมุติฐานที่ตั้งขึ้นพบว่า เชียงใหม่มีภาคประชาสังคมที่เข้มแข็ง ทั้งองค์กรภาคประชาชนที่ตั้งขึ้น หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา รวมทั้งสื่อมวลชนท้องถิ่นและส่วนกลาง องค์ประกอบที่แต่ละองค์กรมีถือเป็นจุดแข็งที่นำไปสู่การร่วมมือกันสร้างเมืองเชียงใหม่ให้เป็นเมืองที่น่า โดยทุกคนและทุกภาคส่วนได้ลงมือทำและกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกัน

 

          “ปฎิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม จะเริ่มปฎิบัติการพลิกโฉมเมืองเชียงใหม่ใน 99 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. นี้ แบ่งการทำงานออกเป็น 3 เฟส คือ การจัดทำรายงานสุขภาพเมือง จัดทำแผนเชียงใหม่เมืองน่าอยู่ และสร้างเครือข่ายการขับเคลื่อนเมืองน่าอยู่ระดับประเทศ กิจกรรรมที่ดำเนินการในเวลา 99 วัน ทุกๆ 1 เดือนจะนำไฮไลท์เด่นๆมานำเสนอเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ และกิจกรรมสุดท้ายจะเชิฐประชาชนชาวเชียงใหม่ 1 แสนคนร่วมกันปลูกต้นไม้ 1 แสนต้น ฯลฯ”นายณัฐพงษ์กล่าว

 

          นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า เป้าหมายของปฎิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม คือ ทำให้เรื่องนี้เข้าถึงประชาชนทุกคนในเชียงใหม่ กิจกรรมที่จัดขึ้นมีตั้งแต่กิจกรรมที่สามารถทำได้เอง กิจกรรมที่ร่วมกันทำ และกิจกรรมเชิงรุกที่เข้าร่วม โดยมุ่งเน้นเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในปฎิบัติการเชียงใหม่เอี่ยมครั้งนี้ เพราะการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเชียงใหม่ของสำนักงานสถิติในช่วงที่ผ่านมา 1 ในคำถามที่เป็นตัวชี้วัด ส่วนใหญ่มองการพัฒนาเป็นเรื่องไกลตัว แต่หลังโครงการฯนี้ดำเนินการเสร็จทุกคนจะเปลี่ยนแนวความคิดมองว่าการพัฒนาเป็นเรื่องที่สามารถทำร่วมกันได้ โครงการในลักษณะนี้เริ่มที่เชียงใหม่เป็นแห่งแรกแต่มีเป้าหมายขยายไปทั่วประเทศเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น

 

          ส่วนผลในปฎิบัติการ 99 วัน มีความท้าทาย 4 เรื่องหลักใหญ่ๆที่คาดหวัง ทั้งการลดปัญหาขยะล้นเมืองลงให้ได้ 30% ช่วยลดงบประมาณการจัดเก็บขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ลงได้ถึงปีละ 60 ล้านบาท การเชิญชวนครัวเรือนจำนวน 7 หมื่นครัวเรือนจากทั้งหมด 1 แสนครัวเรือนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ติดตั้งบ่อดักไขมัน เพิ่มจุดเข้าถึงอาหารเกษตรอินทรีย์ทุกๆ 400 เมตร หรือ 99 จุดในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ และรวมกันปลูก-ลงทะเบียนไม้พื้นถิ่น 1 แสนต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว

 

          นอกจากนี้ยังมีปฎิบัติการฟื้นคลองแม่ข่าให้เป็นพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ไม่มีปัญหาน้ำเสีย ปฎิบัติการถนนกึ่งคนเดิน ถ.เจริญประเทศ ซึ่งมีโรงเรียนตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้ 5 โรงเรียน มีเด็กๆเดินทางมาเรียนวันละกว่า 1 หมื่นคนไม่นับรวมผู้ปกครอง มีปัญหาการจราจรแออัด เกิดมลพิษทางอากาศ ปฎิบัติการนี้มีเป้าหมายลดปัญหาจราจรและมลพิษ โดยได้ขอความร่วมมือจากโรงเรียนและสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนต่างๆ มีเป้าหมายจัดหาพื้นที่สีเขียว จุดรับส่ง ฟื้นฟูระบบรถโรงเรียน

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

 

 

 

update: 01-02-53

อัพเดทเนื้อหาโดย:ภราดร เดชสาร

Shares:
QR Code :
QR Code