สสส.ดันท้องถิ่น ปลูกผักกินเอง

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


'หากชุมชนมีบริหารจัดการอาหารในชุมชนแบบพึ.งพาตนเอง เช่น ปลูกผักกินแทนการซื้อและผูกเชื่อมโยงระบบอาหารในชุมชน พัฒนากลไกการกระจายอาหารที่ดี ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านอาหาร อีกทั้งยังช่วยให้ชุมชนมีอาหารการกินสมบูรณ์ ปลอดภัย และทำให้คน มีสุขภาพที่ดี' น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์


สสส.ดันท้องถิ่น ปลูกผักกินเอง thaihealth


แฟ้มภาพ


ต้องยอมรับว่าการที่ประชาชนไทยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นหลักมากถึงร้อยละ 44.5 ของประชากรทั้งประเทศ โดยยังมีอีกกว่าร้อยละ 50 ทาเกษตรเป็นอาชีพเสริม มีส่วนทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยหนีไม่พ้นความยากจน


สาเหตุหนึ่งเกิดจากอาชีพเกษตรกรรมต้องพึ่งพาปัจจัยทางธรรมชาติและกลไกตลาด ซึ่งเป็นที่รู้กันดีกว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ผลพวงปัญหาที่ตามมา คือเกษตรกรไทยเกือบทุกครัวเรือนจึงมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ตามด้วยปัญหาหนี้สิน ซึ่งเป็นปัญหาที่สั่งสมในสังคมไทยมาหลายสิบปีจนถึงทุกวันนี้


"จากการสำรวจปัญหาหนี้สินของเกษตรกรพบว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารสูงเป็นอันดับที่ 3 ถัดจากค่าใช้จ่ายจากการทำเกษตร ซึ่งเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพโดยส่วนใหญ่ของคนไทย และค่าใช้จ่ายเรื่องการศึกษาบุตร"


น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บอกเล่าในเวทีขับเคลื่อนขบวนการร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ครั้งที่ 2 ตอนระบบอาหารชุมชน มั่นคง ปลอดภัย ซึ่งจัดโดย สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สสส. ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ถ.วิภาวดีรังสิต โดยเวทีดังกล่าวมีเป้าหมายต้องการปลุกกระแสให้ชุมชนลุกขึ้นมาผลิตอาหารเพื่อบริโภคเอง เพื่อช่วยสร้างเสริมเศรษฐกิจระดับชุมชนด้วยการส่งเสริมให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้ ตามแนวทางนโยบายประชารัฐของรัฐบาล


ดวงพรย้ำว่า สสส.ให้ความสำคัญกับระบบอาหารชุมชน เพราะถือเป็นทั้งต้นทางและปลายทางในการสร้างเสริมสุขภาพ รวมถึงเศรษฐกิจ การสร้างรายได้ ลดรายจ่ายให้แก่ชุมชน โดย สสส.ทำหน้าที่ในการส่งเสริมให้มีการจัดทำข้อมูลชุมชนเพื่อให้ชุมชนเข้าใจตนเองเห็นทุนและศักยภาพที่มีอยู่ สนับสนุนฝึกทักษะนำข้อมูลที่ได้สร้างการเรียนรู้วางแผนแก้ปัญหา และการสร้างพื้นที่ต้นแบบเพื่อให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนต่างๆ ได้เข้าไปศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบเหล่านี้ และสามารถนำไปดำเนินการในพื้นที่ของตนเองโดยสามารถปรับกระบวนการตามความเหมาะสม


สำหรับในเวทีดังกล่าวคือการเริ่มต้นจากการสร้างความเข้าใจ และให้ตระหนักถึงความสำคัญของระบบอาหารชุมชน โดยเรียนรู้ผ่าน 9 พื้นที่เรียนรู้ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบจากเครือข่ายสุขภาวะของ สสส.


"หากชุมชนมีบริหารจัดการอาหารในชุมชนแบบพึ่งพาตนเอง เช่น ปลูกผักกินแทนการซื้อและผูกเชื่อมโยงระบบอาหารในชุมชน พัฒนากลไกการกระจายอาหารที่ดี ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านอาหาร อีกทั้งยังช่วยให้ชุมชนมีอาหารการกินสมบูรณ์ ปลอดภัย และทำให้คนมีสุขภาพที่ดี" ผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชนกล่าว


ในเวทีดังกล่าวจึงมีหลากหลายชุมชนต้นแบบที่ประสบความสำเร็จจากทั่วประเทศ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์กระบวนการสร้างอาหารชุมชนในแบบสุขภาวะ เพื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อนต่างพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น วิธีการปลูกผักสร้างครัวชุมชนที่ทำรายได้ถึงปีละ 25 ล้านของ อบต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย กระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรสร้างอาหารชุมชนของ อบต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก หรือการจัดการน้ำ เพิ่มอาหาร สร้างเศรษฐกิจของ ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช


หนึ่งในนั้นคือ แดนชัย บุลมาก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ร่วมบอกเล่าถึงวิธีปลูกผักสร้างครัวชุมชนที่ประสบความสำเร็จจนสร้างรายได้ให้ชุมชน อบต.โป่งงามว่า ได้ริเริ่มโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเองเมื่อปี 2553 ซึ่งได้สำรวจครัวเรือนในพื้นที่ที่ต้องการเมล็ดพันธุ์ผัก แล้วใช้งบประมาณของ อบต. จัดซื้อเมล็ดพันธุ์แจกจ่าย แม้ในช่วงเริ่มต้นจะมีชาวบ้านเข้าร่วมโครงการเพียง 10 หลังคาเรือนจากจำนวนประชากรที่อยู่อาศัย 2,200 ครัวเรือน แต่ก็ยังดำเนินโครงการต่อเนื่องโดยพยายามปลุกกระแสให้พี่น้องในชุมชนหันมาปลูกผักบริโภคเอง


ต่อมาในปีเดียวกันนั้นเอง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานต้นกล้าไม้ผลและทรงแนะนำให้ชาวบ้านปลูกผักนอกบ้าน ซึ่งต่อมากลายเป็นโครงการ "ซอยนี้มีรักปลูกผักแบ่งปัน" ขยายผลทำให้ชาวบ้านเข้าร่วมโครงการปลูกผักกินเองเพิ่มขึ้นเป็น 1,250 ครัวเรือน นอกจากนี้คนในชุมชนยังมาช่วยกันปลูกผักในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งนำมาแบ่งปันแจกจ่ายกันบริโภคภายในชุมชนได้อีกด้วย


พร้อมกันนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงสนับสนุนให้มีแหล่งโปรตีนในชุมชน โดยมีการส่งเสริมการเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลาในกระชัง จัดตลาดนัดสีเขียวในชุมชน ซึ่งปัจจุบันชาวบ้าน ต.โป่งงามมีรายได้ปีละ 25 ล้านบาท จากการปลูกผักส่งขายให้ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์ เพ็ญศิริ


แนวทางการหนุนชุมชนผลิตอาหารกินเองช่วยสุขภาพดี-ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ดังกล่าว สสส. ตั้งเป้าว่าจะผลักดันให้เกิดเครือข่ายระบบอาหารชุมชน มั่นคง ปลอดภัยอย่างน้อย 300 แห่งทั่วทุกภูมิภาค ภายในปี 2560 นี้


 

Shares:
QR Code :
QR Code