สสส.จับมือภาคประชาสังคมตั้ง “ศูนย์ความร่วมมือ เพื่อฟื้นฟูประเทศไทย”
สสส. จับมือ ภาคประชาสังคม ชุมชน ธุรกิจเอกชน ก่อตั้ง “ศูนย์ความร่วมมือ เพื่อฟื้นฟูประเทศไทย” เป้าหมายหลัก คือการสนับสนุนการฟื้นฟูชุมชนอย่างยั่งยืน เน้นกระบวนการจับคู่พื้นที่เสียหายและผู้สนับสนุน เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือ ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ด้าน ตลท.พร้อมเป็นสื่อกลางให้บริษัทต่างๆ เข้าร่วมโครงการ
วันที่ 15 ธ.ค. เวลา 11.00 น. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สมาคมจดทะเบียนไทย(CSR CLUB) และสถาบันเชนจ์ ฟิวชั่น ร่วมเปิดงาน การจัดตั้ง “ศูนย์ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูประเทศไทย” เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลและปฏิบัติการณ์ฟื้นฟูประเทศไทยหลังจากน้ำท่วม ณ ห้อง 105 ชั้น 1 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ประธานมูลนิธิหัวใจอาสา และที่ปรึกษาสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.กล่าวว่า จากวิกฤตการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิต ทรัพย์สิน สุขภาพ และจิตใจ ของประชาชน เกิดความเสียหายในเกือบทุกภาคส่วน โดยเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2553 คาดการณ์ว่าเกิดความเสียหาย 4 ล้านครัวเรือนใน 74 จังหวัด คิดเป็นความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2554 คาดว่าเกิดความเสียหาย 6 ล้านครัวเรือนในกว่า 26 จังหวัด คิดเป็นความเสียหายกว่า 600,000 ล้านบาท
“การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งและจำเป็นต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน จึงมีการจัดตั้ง “ศูนย์ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูประเทศไทย” เพื่อไปสู่เป้าหมายในการสนับสนุนการฟื้นฟูชุมชนอย่างยั่งยืน โดยศูนย์จะทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายและข้อมูลของผู้ที่ต้องการสนับสนุน เพื่อให้เกิดการจับคู่ที่เหมาะสมและตรงความต้องการ และสร้างการพัฒนาความร่วมมือของเครือข่ายต่างๆ ให้เกิดการต่อยอดและขยายผลได้ ที่สุดท้ายคือการร่วมกันทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับหากมีปัญหาเกิดขึ้นในปีต่อไป” ประธานมูลนิธิหัวใจอาสา กล่าว
รศ.ดร.ธนิต ธงทอง รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุฬาฯ ถือเป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งทำงานเชิงรุกเพื่อร่วมแก้ปัญหา ความเดือดร้อนของประชาชน ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้สถาปนาฯ ให้เป็นมหาวิทยาลัยของแผ่นดิน ดังนั้น เมื่อประชาชนต้องเผชิญหน้ากับมหาอุทกภัย ได้รับความเดือดร้อนในทุกด้าน ทั้งที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา จุฬาฯ ได้เปิดศูนย์ประสานงานเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่ศาลาพระเกี้ยว และร่วมมือกับไทยพีบีเอส เปิดศูนย์ข่าวเฉพาะกิจ เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในที่ต่างๆ และรวบรวมนวัตกรรมเพื่อให้ประชาชนนำไปใช้ปรับตัวในการอยู่ในสภาวะน้ำท่วมให้ได้
“ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความร่วมมือในการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจาก การให้สถานที่จัดตั้ง “ศูนย์ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูประเทศไทย” บุคลากรของมหาวิทยาลัยฯ พร้อมที่จะสรรหานวัตกรรมเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ” รศ.ดร.ธนิต กล่าว
ด้าน นายพันธ์ศักดิ์ เวชอนุรักษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) คาดว่าจะมีแรงงานว่างงานกว่า 700,00-920,000 คน หรือ 1.8-2.3% ของแรงงานทั้งหมด ตลท. ร่วมกับ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) หาแนวทางการเยียวยา โดย ตลท.เป็นแกนนำในการลงเงินขั้นต้น 250-300 ล้านบาท และระดมทุนจากภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าจะได้เงินทุนประมาณ 500 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อมีการตั้งศูนย์ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูประเทศไทย ทาง ตลท.ยินดีที่จะให้บริษัทที่อยู่ใน ตลท.นำข้อมูลมาเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงความช่วยเหลือที่ถูกต้องและยั่งยืน
ที่มา: สำนักข่าว สสส.