สร้างตำบลสุขภาวะ

ความหวังใหม่ของชุมชนท้องถิ่น

 สร้างตำบลสุขภาวะ

          นับตั้งแต่ภาครัฐให้มีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นด้วยการจัดตั้งอบต. หรือ องค์การบริหารส่วนตำบล ทำให้ความเปลี่ยนแปลง ต่อการพัฒนาท้องถิ่นเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของความเจริญต่างๆ ซึ่งจากการติดตามผลพบว่าความเจริญในการพัฒนาท้องถิ่นภายใต้การบริหารของอบต. เกิดขึ้นในขอบข่าย 3 ประการ คือ เน้นกิจกรรมพื้นฐาน สาธารณูปโภค และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

 

          ปัจจุบันอบต. มีมากกว่า 6,000 แห่ง ภารกิจของอบต. ตาม พ.ร.บ.การกระจายอำนาจในเรื่องที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้งานของอบต. จึงเป็นงานที่ใกล้ชิดกับชุมชนและคน ในชุมชนมากกว่าหน่วยงานอื่นใดทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้เองงานของอบต. จึงจำเป็นต้องขยายวงกว้างออกไปให้ครอบคลุมคนในชุมชนอย่างครบวงจรของชีวิต โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพภาพพลานามัย

 

          เท่าที่ผ่านมามีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ระบุถึงปัญหาที่อบต.ไม่สามารถเข้าถึงงานทางด้านสุขภาพอนามัยได้ดีเท่าที่ควรอันเกิดมาจากสาเหตุ 3 ประการ ได้แก่ 1.ประชาชนยังไม่เห็นถึงความสำคัญที่เกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพ 2.การบริหารจัดการที่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของอบต. ขาดความรู้ความเข้าใจในระบบงานด้านการส่งเสริมสุขภาพ 3.บุคลากรด้านงานสุขภาพมีจำนวนน้อยและขาดนักวิชาการภายนอกมา เผยแพร่ความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาพให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ หนทางในการแก้ปัญหานี้จึงน่าจะอยู่ที่อบต. ควรต้องทำงานร่วมกับองค์กรอื่นด้วย

 

          และเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือในโครงการขยายผลการพัฒนาทักษะด้านการบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพให้แก่อบต. ระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กับผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวนทั้งหมด 43 แห่ง ซึ่งจากการประเมินอบต. ที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 12 บุคลากร ที่เป็นทีมสุขภาพ จำนวน 48 คน พบว่ามีความรู้และความเข้าใจในกระบวนการทำงานสร้างเสริมสุขภาพและจัดทำแผนอย่างเป็นระบบมากขึ้น และสุดท้ายได้สะท้อนข้อคิดที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ในการนำมาสู่การปรับปรุงแนวทางและคู่มือพัฒนาทักษะที่จะใช้ต่อไป เนื่องจากภายหลังการอบรมมีอบต. มาขอรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาทักษะฯที่เกิดจากการพัฒนาโครงการในช่วงฝึกอบรมจำนวน 10 แห่งจากสสส.

 

          ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า สสส.เป็นองค์กรที่มีพันธกิจสำคัญในสังคมไทย โดยมีหน้าที่ส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาวะที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ ในด้านกาย จิตใจ ปัญญา และสังคม ส่วนอบต. เป็นหน่วยงานท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนในท้องถิ่นอย่างแนบแน่น และมีบทบาทในการผลักดันนโยบายสาธารณะท้องถิ่นด้านต่างๆ ให้ปรากฏเป็นรูปธรรม ดังนั้น การร่วมมือ ของทั้ง 2 องค์กร จึงเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราจะได้เห็นการมีสุขภาพดีในองค์รวมของพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา สสส.ได้ให้การสนับสนุนชุมชนและท้องถิ่นที่ริเริ่มโครงการสร้างเสริมสุขภาพของตนเองอย่าง

 

          กว้างขวางกว่า 200 โครงการ เช่น โครงการวิจัยและพัฒนาพลังงานทางเลือกเพื่อสุขภาพชุมชน, โครงการหมู่บ้านสร้างเสริมสุขภาพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ยังมีการสร้างอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุในชุมชนกว่า 10,000 คน ซึ่ง อบต. รับสนับสนุนดูแลอาสาสมัครอย่างต่อเนื่อง 204 แห่ง ส่วนในปี 2553 นี้ สสส. เปิดรับโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นน่าอยู่ ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะสนับสนุนรวม 100 โครงการ เป็นเงินสนับสนุนทั้งสิ้นกว่า 80 ล้านบาท ที่ สสส. หวังว่าการผลักดัน โครงการต่างๆ เหล่านี้ จะนำไปสู่ความมีสุขภาพดีในความ

 

          หมายกว้าง ซึ่งเป็นสุขภาวะที่ครอบคลุมต่อเนื่องทุกช่วงชีวิตตั้งแต่ เกิดจนตาย และหลังตาย ครอบคลุมวิถีการดำเนินชีวิตเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วย การรักษาโรค และการฟื้นฟูสภาพ ดังนั้น สุขภาพจึงมิได้มีความหมายจำกัดอยู่เพียงการไม่เจ็บป่วยหรือพิการเท่านั้น หากยังครอบคลุมถึงการดำเนินชีวิตที่ยืนยาวของทุกคน ซึ่งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับปัจจัยต่างๆ มากมาย โดยกระบวนการพัฒนาทักษะเพื่อส่งเสริม

 

          สุขภาพให้กับอบต. ที่เข้าร่วมโครงการจะจัดให้มีการสัมมนาโครงการจำนวน 3 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งจะมีการนำความรู้ที่ได้ไปทดลองปฏิบัติในพื้นที่จริง หลังจากพัฒนาทักษะแล้วจะมีการพิจารณาโครงการที่อบต. ขอรับการสนับสนุนจากสสส. โดยผ่าน กระบวนการขั้นตอนการพิจารณาของคณะทำงานร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิจากสสส.ต่อไป ซึ่งทางสสส.หวังว่าการผลักดันโครงการต่างๆ เหล่านี้ จะนำไปสู่ความมีสุขภาพดีในความหมายกว้าง อันจะเป็นสุขภาวะที่ครอบคลุมต่อเนื่องทุกช่วงชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย และหลังตาย ครอบคลุมวิถีการดำเนินชีวิตเพื่อสร้างเสริมสุขภาพป้องกันการเจ็บป่วย การรักษาโรค และการฟื้นฟูสภาพ

 

          ดังนั้น สุขภาพจึงมิได้มีความหมายจำกัดอยู่เพียงการไม่เจ็บป่วยหรือพิการเท่านั้น หากยังครอบคลุมถึงการดำเนินชีวิตที่ยืนยาวของทุกคน ซึ่งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับปัจจัยต่างๆ มากมาย และมีความเป็นไปได้อย่างสูง ว่า ความร่วมมือกันของอบต.ภาคอีสาน กับสสส. จะส่งเสริมให้เกิดสภาวะแห่งความเป็นตำบลสุขภาวะที่จะขึ้นในทุกๆ ตำบล และหวังว่ารูปแบบนี้จะพัฒนาขยายต่อไปในภาคอีสานและต่อยอดไปทุกจังหวัดทั่วประเทศอย่างไม่มีวันสิ้นสุดตลอดไป

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

 

 

Update: 31-03-53

อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร

Shares:
QR Code :
QR Code