สธ.เผยเร่งควบคุม “วัณโรค”
ชี้ไทยพบผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 9 หมื่นราย
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้มีการประชุมผู้บริหารระดับสูงในส่วนกลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วประเทศ เน้นย้ำให้เร่งรัดควบคุมโรควัณโรค ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วน เนื่องจากไทยมีวัณโรคระบาดติดอันดับที่ 18 จาก 21 ประเทศ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ประเมินว่าไทยมีผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 9 หมื่นราย อยู่ในระยะแพร่เชื้อ 4 หมื่นราย
“อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค เมื่อปี 2549 พบว่า ผู้ป่วยวัณโรคที่เข้าสู่ระบบการรักษามีเพียง 2.8 หมื่นราย และพบผู้ป่วยใหม่เพียงปีละกว่า 5 หมื่นราย ซึ่งต่ำกว่าสภาพข้อเท็จจริงมาก ขณะที่แนวโน้มการติดเชื้อวัณโรคมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี จึงให้ทุกจังหวัดเร่งรัดควบคุมอย่างเคร่งครัด ถือเป็นนโยบายสำคัญ เพื่อลบล้างสถิติไม่ให้ไทยติดอันดับโลก” นพ.ปราชญ์กล่าว และว่า เบื้องต้น สธ.จะมีการรณรงค์เรื่องนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป เพื่อถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยมอบหมายให้ นพ.สสจ. แต่งตั้งผู้รับผิดชอบวัณโรคในโรงพยาบาล และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทุกแห่ง ออกสำรวจค้นหาผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ทุกพื้นที่
นพ.ปราชญ์กล่าวว่า หากพบผู้ป่วยที่สงสัยให้ส่งโรงพยาบาล เพื่อพบแพทย์ตรวจละเอียด หากอยู่ระยะแพร่เชื้อซึ่งเป็นระยะอันตราย ให้รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลนาน 2 สัปดาห์ เพื่อตัดวงจรไม่ให้แพร่เชื้อสู่สมาชิกในครอบครัวหรือชุมชน เนื่องจากผู้ป่วยระยะแพร่เชื้อ 1 คน สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ประมาณ 20 คน จากนั้นเมื่อพ้นระยะแพร่เชื้อแล้วจะส่งผู้ป่วยกลับบ้าน และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรืออาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) หรือญาติ ดูแลให้กินยาต่อเนื่องจนครบ 180 วัน และจะส่งพบแพทย์ ครั้งที่ 2 เพื่อประเมินผลการรักษาว่าหายขาดหรือไม่
นพ.ปราชญ์กล่าวอีกว่า ได้เน้นให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.ค้นหาผู้ป่วยในหมู่บ้าน ชุมชนทุกแห่ง โดยเฉพาะจุดที่มีความแออัด การไหลเวียนอากาศไม่ดี จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เรือนจำบางแห่งที่มีนักโทษแออัด ซึ่งจากงานวิจัยเป็นแหล่งพบผู้ติดเชื้อประมาณร้อยละ 10 นอกจากนี้ กลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากพบติดเชื้อวัณโรคประมาณร้อยละ 30 ขณะที่ชุมชนแออัด ระบบการสุขาภิบาลไม่ดี รวมทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ
“ขอความร่วมมือประชาชนทั่วประเทศ หากพบบุคคลในครอบครัว คนใกล้ตัว มีอาการผ่ายผอม เบื่ออาหาร มีไข้ต่ำตอนบ่ายๆ ค่ำๆ ไอเรื้อรัง 2 สัปดาห์ขึ้นไป ให้ไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่สถานีอนามัย หรือศูนย์สุขภาพชุมชนใกล้บ้าน เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยทันที” นพ.ปราชญ์กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
update : 04-08-51