สธ.ห่วงผู้ป่วยน้ำท่วมติดเชื้อจากแผลอักเสบ
สธ. ดูแลผู้บาดเจ็บจากโคลนถล่มที่ อ.เขาพนม ป้องกันแผลติดเชื้อเต็มที่ แนะชาวบ้านรายใดหากแผลอักเสบ บวม แดง ขอให้รีบพบแพทย์ ด้าน “จุรินทร์” สั่งด่วน ส่ง ฮ.พยาบาลลำเลียงผู้ป่วยหนัก 2 รายออกจาก รพ.พนมทวนไป รพพ.สุราษฎร์แล้ว เพราะถนนถูกตัดขาด รถพยาบาลเข้าไม่ได้ ขณะนี้ผู้ป่วยถึงมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดูแลผู้บาดเจ็บจากเหตุโคลนถล่มที่ตำบลหน้าเขา ตำบลเขาพนม อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ ว่า ขณะนี้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 8คน ได้ตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราวที่วัดถ้ำโกบ ตำบลหน้าเขา อำเภอเขาพนม เพื่อดูแลรักษาผู้บาดเจ็บหรือผู้ประสบภัยจากเหตุโคลนถล่มอย่างเต็มที่ จุดวิกฤตอยู่ที่หมู่ 6และ 7ตำบลหน้าเขา โดยโรงพยาบาลสนามจะมีเตียงรับผู้ป่วย เวชภัณฑ์การรักษา ชุดทำแผล ชุดใส่เฝือก หากมีผู้ป่วยหนักจะส่งรักษาต่อในโรงพยาบาลเขาพนมหรือที่โรงพยาบาลอื่นๆ ตามความเหมาะสม
สำหรับผู้บาดเจ็บที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเขาพนม 17ราย เป็นชาย 6ราย และหญิง 11ราย ประมาณร้อยละ 60มีบาดแผลตามร่างกายและเปื้อนดินโคลน ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อยู่ในดินโคลน ที่น่าห่วงที่สุดคือเชื้อบาดทะยัก ทีมแพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อและทำแผลป้องกันการติดเชื้อ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักทุกราย โดยทุกรายมีอาการปลอดภัย ยังไม่พบบาดแผลการอักเสบ วันนี้ แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 4ราย เหลือนอนในโรงพยาบาล 13ราย และได้ให้นักจิตวิทยา จิตแพทย์ให้การดูแลด้านจิตใจ เนื่องจากบางรายสูญเสียบ้านทั้งหลัง สูญเสียทรัพย์สิน และญาติ
อย่าง ไรก็ดี สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดินโคลนถล่ม และมีบาดแผลไม่ว่าจะเล็ก ใหญ่ หรือแค่รอยถลอกก็ตาม ขอให้ดูแลรักษาความสะอาดของบาดแผล ทำแผลที่ รพ.สต.ใกล้บ้าน หรือที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ อย่าให้ถูกน้ำ หากไม่จำเป็นขอให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำลุยโคลน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ขอให้ใส่รองเท้าบู๊ทยาง เพื่อป้องกันไม่ให้แผลสัมผัสสิ่งสกปรก และหากแผลมีอาการอักเสบ บวม แดง หรือมีไข้ ขอให้รีบพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือแจ้ง อสม. เพื่อให้การดูแลรักษาอย่างทันท่วงที
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ว่า บ่ายวันนี้ (31 มีนาคม 2554) ได้รับรายงานจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติว่า มีผู้ป่วยหนัก 2 ราย ที่โรงพยาบาลพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายแรกเป็นหญิงอายุ 47 ปี ป่วยเป็นโรคตับวาย ตับเป็นพิษ ไม่รู้สึกตัว ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ รายที่ 2 เป็นชายอายุ 78 ปี เป็นโรคความดันโลหิตสูง และหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ มีไข้สูง ได้ประสานส่งเฮลิคอปเตอร์พยาบาลจากโรงพยาบาลกรุงเทพสมุย ลำเลียง ไปส่งที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาด รถพยาบาลไม่สามารถวิ่งได้ โดยผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ออกจากโรงพยาบาลพนมเวลา 14.00 น. ถึงโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเมื่อเวลา 15.00 น. และได้รับการดูแลจากแพทย์เชี่ยวชาญแล้ว
ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์