สธ.สั่งทุกจังหวัด ตั้งวอร์รูม สกัดไข้หวัด2009
พร้อม ป้องกันเชื้อผสมข้ามสายพันธุ์
กำชับ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง วางมาตรการเข้มรับมือ หลังพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่พุ่งสูง จับตา 100 วันอันตรายระบาดระลอกใหม่ คุมเข้มหวั่นเชื้อผสมข้ามสายพันธุ์กับไข้หวัดนก….
นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผอ.รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป 6 จังหวัด ภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร และอุทัยธานี เพื่อติดตามกำกับการดำเนินงานของพื้นที่ตามยุทธศาสตร์ 2 ลด 3 เร่ง เพื่อควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่กำลังแพร่ระบาดในเขตชนบท ว่า ได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและ รพ.ในเขตพื้นที่ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างเฝ้าระวังและดำเนินมาตรการควบคุมการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกที่เกิดในสัตว์ปีก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เคยพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกมาก่อน เพื่อป้องกันเชื้อไม่ให้มีการผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่างไข้หวัดใหญ่กับโรคไข้หวัดนก ซึ่งทั้ง 2 โรค มีโอกาสระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว รวมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างหนักหลังเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 มาเป็นเวลาเกือบ 5 เดือน
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศไทยโดยรวม ถือว่าชะลอตัวลง แม้ว่าจะดูเหมือนยังเงียบๆอยู่ เนื่องจากการระบาดผ่านจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางไปแล้ว ขณะนี้เข้าสู่เขตชนบท คาดว่าการระบาดจะรวดเร็วใน 100 วันข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสำคัญของไทย จึงต้องร่วมกันรับมืออย่างเต็มที่ เพื่อลดความเสียหายต่อชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจ
สำหรับสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในเขตภาคเหนือ นพ.ไพจิตร์ เผยว่า พบผู้ป่วยหนาแน่นในเขตภาคเหนือตอนล่าง 6 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี สุโขทัย พิษณุโลก มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมาจนถึงขณะนี้รวม 23 คน และมีสัญญาณเตือนที่สำคัญว่าโรคอาจจะระบาดได้ เนื่องจากในช่วง 2 สัปดาห์นี้ มีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หนาแน่นมากกว่า 1,000 คนต่อจังหวัด จึงต้องเตรียมการรับมืออย่างเข้มข้นเพราะคนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 ยังไม่มีภูมิต้านทานโรคนี้ ขณะนี้มีอำเภอเพียงร้อยละ 9.5 ที่ยังไม่มีผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ทุกจังหวัดเปิดวอร์รูมไข้หวัดใหญ่ 2009 มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อบริหารยุทธศาสตร์ 2 ลด 3 เร่ง คือลดตาย ลดติดเชื้อและลดป่วย เร่ง อสม.ให้ความรู้ประชาชน เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตื่นตัว และเร่งบริหารจัดการระดมความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งนี้ได้ให้โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไปของทุกจังหวัด ตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญออกให้คำปรึกษาแก่แพทย์โรงพยาบาลชุมชนที่ส่วนใหญ่เป็น แพทย์จบใหม่ รายใดที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรง เช่น หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วน ผู้สูงอายุ เด็กเล็กผู้ที่มีโรคประจำตัวทุกโรค ให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ทันที ไม่ต้องรอผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ส่วนที่สถานีอนามัยซึ่งเป็นต้นทางที่ผู้ป่วยมาพบ ขอให้รีบส่งตัวผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ทันที
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
Update: 22-09-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย