‘สงกรานต์วิถีไทย ปลอดเหล้า ปลอดภัย ใช้น้ำน้อย’
เรื่องโดย อาภาวรรณ โสภณธรรมรักษ์ team content www.thaihealth.or.th
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
นับตั้งแต่ปี 2549 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ได้รณรงค์เรื่อง ‘สงกรานต์ปลอดเหล้า พื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย’ เพื่อลดอุบัติเหตุทางท้องถนนมาอย่างต่อเนื่อง และมีการขยายพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้ามากขึ้นทุกๆ ปี
สำหรับปี 2559 นี้เอง ที่ประเทศไทยต้องเผชิญภาวะแล้ง และน้ำในอ่างเก็บน้ำตามแต่ละภูมิภาคก็ลดน้อยลงเป็นอย่างมาก ทำให้ สสส. และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้รณรงค์เรื่องการเล่นสงกรานต์อย่างประหยัด รวมไปถึงการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยไว้เช่นเดิม ในธีม “สงกรานต์วิถีไทย ปลอดเหล้า ปลอดภัย ใช้น้ำน้อย” พร้อมกับหนุน 3 วิธีการเล่นสงกรานต์ในปีนี้อีกด้วย
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ กรรมการกองทุน สสส. กล่าวถึงนโยบายการรณรงค์ว่า สสส. และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า รวมถึงภาคีทั้งภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วน ต่างร่วมใจกันรณรงค์มุ่งเน้นให้มีพื้นที่สงกรานต์ปลอดเหล้า ปลอดภัย โดยมีการจัดโซนเล่นน้ำปลอดเหล้าของแต่ละจังหวัด และเน้นย้ำการใช้น้ำอย่างประหยัด โดย
3 แนวทางในการเล่นน้ำสงกรานต์ปี 59
1. ให้เป็นวิถีไทย
นอกจากการฟื้นคืนคุณค่าและมิติทางวัฒนธรรมประเพณีไทยกลับมาด้วยการรณรงค์และสนับสนุนให้แต่งกายด้วยการใช้ผ้าไทย ผ้าซิ่น ผ้าเมือง ผ้าขาวม้า ฯลฯ แล้ว ยังหมายถึงการที่เด็กและเยาวชน รู้จักการรดน้ำขอพรจากผู้ใหญ่ รวมไปถึงการที่ครอบครัวได้พบปะและใช้เวลาช่วงเทศกาลอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แทนที่จะไปสาดน้ำกันอย่างสนุกสนานเด็กๆ จะนึกถึงครอบครัวมาก่อนอันดับแรก
2. ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีคนเสียชีวิตจากการเดินทาง การชกต่อย ทะเลาะวิวาท เพราะขาดสติจากการดื่มแอลกอฮอล์ สสส.จึงได้ทำโซนนิ่งปลอดเหล้าเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน จากเมื่อก่อนที่มีเพียงแค่ 90 กว่าโซนในถนนตระกูลข้าว ปัจจุบันได้ขยายโซนเล่นน้ำปลอดเหล้ากว่าพันแห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งจะต้องช่วยกันขยายไปให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
3 ประหยัดน้ำ
กรรรมการกองทุน สสส. เล่าต่อว่า ในสมัยก่อนเราเล่นสงกรานต์แบบสาดน้ำ เทน้ำ แต่สำหรับปีนี้เราเหลือน้ำใช้น้อย และใช้เท่าที่จำเป็น หลายๆ จังหวัด เน้นการใช้น้ำน้อย ใช้ขันเล็กๆ ราดปะพรม ซึ่งเป็นนวัตกรรมของหลายๆ จังหวัด หรือจากที่เคยเล่น 3 วันก็เหลือเพียง 1 วัน เคยแจกน้ำฟรีก็จำกัดปริมาณน้ำ ให้คนไทยประหยัดน้ำ ช่วยกันทั้งประเทศ
ตัวอย่าง พื้นที่ปลอดเหล้า 4 จังหวัด
ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ซึ่งมีนวัตกรรมวิธีการเล่นน้ำเรียกว่า “ซิดแทนสาด” คือการปะพรมน้ำ แทนการสาดน้ำโดยใช้ขวดน้ำเจาะและสะบัด
ถนนรอบคูเมือง จ.เชียงใหม่ ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีล้านนา ครบรอบ 720 ปีเมืองเชียงใหม่ กรมชลประทานวางแผนการส่งน้ำเข้าในเขตคูเมืองเชียงใหม่ตามความเหมาะสม เน้นน้ำสะอาดและตรวจคุณภาพน้ำ
ถนนรำข้าว จ. หนองคาย ใช้นวัตกรรม “จุ่มสะบัด” โดยใช้นิ้วมือจุ่มลงในขันน้ำและสะบัดข้อมือเล็กน้อยเพื่อรดน้ำให้เกิดความสุภาพแทนการสาดน้ำ
ถนนข้าวสุก จ.อ่างทอง ใช้หลัก 5ป. 1.ปลอดเหล้า 2.ปลอดโป๊ 3.ปลอดปืน/อาวุธ 4.ปลอดแป้ง 5.ปลอดสาด พร้อมส่งเสริมประเพณีท้องถิ่น
สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ได้นำเสนอหลัก 5 ข้อ เพื่อความสุขสนุกของผู้ร่วมงานสงกรานต์อย่างปลอดภัย สร้างสรรค์ ได้วัฒนธรรม คือ
1. ติดป้ายประกาศแสดงขอบเขตพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย (Zoning) ไร้แอลกอฮอล์
2. มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราเฝ้าระวังดูแลก่อนเข้าบริเวณงาน
3. ไม่อนุญาตให้มีการขายหรือดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่นั้น พร้อมมาตรการลงโทษผู้ฝ่าฝืน
4. หากมีการดื่มหรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เล่นน้ำเกินกว่าเหตุ มีการแสดงที่เกินเลยจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลสั่งการโดยตรงแบบทันท่วงที
5. ความสนุกและสาระการทำบุญยังมีอยู่ครบ สังเกตว่าทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส โดยไม่ต้องดื่มเหล้าย้อมใจ
สงกรานต์ปีนี้เรามาร่วมประหยัดน้ำ รักษาวัฒนธรรมไทย และทำให้เป็นสงกรานต์ปลอดเหล้ากันนะคะ…
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง : 96+ ถนนและพื้นที่เล่นน้ำทั่วประเทศ และ 47+ ถนนเล่นน้ำตระกูลข้าว ได้ที่ จดหมายข่าวชุมชนคนรักสุขภาพ ฉบับสร้างสุข ประจำเดือนเมษายน 2559 http://goo.gl/3uRVGz