“วุฒิสภา” จับมือเครือข่ายคนไทยไร้พุง สสส. เปิดตัวโครงการ “ประชารวมใจ ฟื้นภัยน้ำท่วม”
“วุฒิสภา” จับมือเครือข่ายคนไทยไร้พุง สสส. เปิดตัวโครงการ “ประชารวมใจ ฟื้นภัยน้ำท่วม” ระดมจิตอาสา นร.-นศ.-แพทย์-พยาบาล “ล้างบาง 7พื้นที่ประสบภัย” ทำความสะอาด-ฟื้นฟูสุขภาพใจ
เมื่อวันที่ 17พ.ย. ที่อาคารรัฐสภา 2 นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันขยายวงกว้างหลายพื้นที่ วุฒิสภา จึงได้ร่วมกับคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การสาธารณสุข กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กมธ.การวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม กมธ.การกีฬา วุฒิสภา และ เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ด้วยความร่วมมือของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดโครงการ “ประชารวมใจ ฟื้นภัยน้ำท่วม” เพื่อศึกษา รวบรวม และกระจายองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาวะผู้ประสบภัย ให้ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะประสาน ส.ส. ส.ว. ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เพื่อป็นต้นแบบกระจายข้อมูลที่ถูกต้องไปสู่พื้นที่ ขณะเดียวกันในส่วนของวุฒิสภาเอง ก็จะได้มีโอกาสสัมผัสข้อมูล และเรียนรู้สภาพปัญหาจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อเป็นฐานประกอบการพิจารณากฎหมายหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดูแลและฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ และสังคมของผู้ประสบภัยได้อย่างทั่วถึงและเสมอภาค
ศ.นพ.สมิง เก่าเจริญ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการฯ จะระดมอาสาสมัครจิตอาสา ทั้งนักเรียน นักศึกษา แพทย์ พยาบาล และผู้สนใจมาร่วมกันทำความสะอาด หรือ “ล้างบาง” ใน 7พื้นที่ต้นแบบ ได้แก่ เขตบางแค บางพลัด กทม. บางใหญ่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี บางเลน จ.นครปฐม บางกระดี่ จ.ปทุมธานี และบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนั้นจะมีการสำรวจสภาพจิตใจ ระดับความเครียดของประชาชนในพื้นที่ และกิจกรรมเสริมอื่นๆ อาทิ ออกกำลังกาย ดนตรีบำบัด เพื่อคลายเครียดให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย
ด้าน นพ.ฆนัท ครุธกูล เลขาธิการเครือข่ายคนไทยไร้พุง และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและโภชนาวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า สิ่งสำคัญขณะนี้คือ ต้องทำให้ประชาชนได้รับองค์ความรู้การดูแลและฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อม ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการ ซึ่งทางโครงการจะนำข้อมูลที่จำเป็นเหล่านี้สื่อสารผ่านทางสื่อออนไลน์ อาทิ เฟสบุ๊ค รวมทั้งจัดอบรมให้ความรู้ระดับพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบการดูแลตนเองและช่วยลดภาวะความเครียดที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะบางราย พบว่า กลายเป็นโรคซึมเศร้า เนื่องจากต้องสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมากถึงขั้นคิดสั้นอยากฆ่าตัวตาย ทั้งนี้โครงการจะเน้นดำเนินการใน 3 ส่วน คือ 1.สร้างเสริมสุขภาพอนามัย 2.ฟื้นฟูจิตใจ และ 3. ดูแลปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมหลังน้ำลด อาทิ เก็บขยะ ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย
ที่มา : สำนักข่าว สสส.